พบโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ จากต่างชาติใน ASQ

นพ.ยง ยันควบคุมอย่างดีไม่ให้แพร่กระจายออกไป ด้าน นพ.ประสิทธิ์ ชี้ สายพันธุ์ B.1.1.7 ระบาดเร็ว แต่อยู่ในศักยภาพวัคซีนที่ผลิตป้องกันได้

3 ม.ค.2564 – ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ได้ถอดรหัสสายพันธุ์ พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษหรือที่เรียกว่า “สายพันธุ์อังกฤษที่กลายพันธุ์ B.1.1.7” ได้ในประเทศไทย เป็นครอบครัวชาวอังกฤษ 4 คน พ่อ แม่ ลูก 2 คน ติดเชื้อทั้ง 4 คน โดยที่แม่และลูกเป็นก่อน พ่อเป็นทีหลัง มาจากเมือง Kent ประเทศอังกฤษและอยู่ใน ASQ (Alternative State Quarantine) โรงพยาบาลเอกชนและเราควบคุมอย่างดีไม่ให้แพร่กระจายออกไป

การถอดรหัสพันธุกรรมทำให้ทราบว่าสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ของอังกฤษกลายพันธุ์ที่ทั่วโลกเฝ้าระวังกันมากและมีการระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ ได้ทำการถอดรหัสพันธุกรรม 2 ราย มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งเกาะจับตัวรับของเซลล์มนุษย์ (N501Y) การกลายพันธุ์ที่จุดตัดของสไปค์โปรตีน (P681H) ตำแหน่งอื่น ๆ ที่ขาดหายไป (Spike 69-70 Deletion) และตำแหน่งอื่น ๆ อีกดังในรูป

สายพันธุ์นี้ทำให้การแพร่ระบาดได้ง่ายและกระจายอย่างรวดเร็ว ในครอบครัวนี้ก็ติดหมดทั้ง 4 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย สายพันธุ์นี้ไม่ได้ทำให้โรครุนแรงขึ้นและไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของวัคซีน ขอให้สบายใจได้ ผู้ป่วยทั้ง 4 รายนี้อยู่ในความควบคุมและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้เชื้อหลุดรอดออกมาได้ ผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลในห้องความดันลบและต้องมั่นใจว่าไม่มีเชื้อแล้ว จึงจะออกมา ดังนั้นโอกาสที่จะแพร่ขยายในประเทศไทยจึงไม่มี

ผู้ที่มาจากประเทศอังกฤษมาประเทศไทยจะต้องเฝ้าระวัง ในรายที่มาจากต่างประเทศการถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อเป็นฐานข้อมูลจะเป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยหาแหล่งที่มาของโรค

ด้าน นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 มีความน่าเป็นห่วง ทั้งการระบาดและการกลายพันธุ์ ที่ทำให้เชื้อแพร่ระบาดได้เร็วโดยการกลายพันธุ์ สายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ที่พบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เรียกว่า สายพันธุ์ D614 ส่วน สายพันธุ์ G614 เริ่มพบในสัดส่วนประมาณ 26% ของเชื้อที่พบนอกประเทศจีนในเดือนมีนาคม 2563 และเพิ่มปริมาณ/สัดส่วนเร็วขึ้นมาก

เดือนเมษายน พบมากถึง 65% และในเดือนพฤษภาคม พบมากถึง 70% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์เดิมมาก

ในเดือนกันยายนเริ่มพบ สายพันธุ์ B1.1.7 ในสหราชอาณาจักร กลางเดือนพฤศจิกายน สายพันธุ์ที่พบเป็น 20-30% ของโควิด-19 ที่ระบาดในสหราชอาณาจักร ต้นธันวาคม พบเพิ่มมากเป็น 60% ทั้งนี้ สายพันธุ์ B1.1.7 แพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ G614 แต่ไม่มีหลักฐานว่า รุนแรงกว่ากัน จึงอยู่ในศักยภาพวัคซีนที่ผลิตอยู่ป้องกันได้

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS