ศบค. ชุดเล็ก เสนอผ่อนมาตรการโควิด-19

ลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด เหลือ สมุทรสาคร กทม. ปริมณฑล เปิดเรียนได้ รอ ศบค. ชุดใหญ่ เคาะ ศุกร์นี้

วันนี้ (27 ม.ค. 2564) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมเบื้องต้นของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีเรื่องพิจารณาที่สำคัญอยู่ 3 เรื่อง คือ ข้อเสนอแผนแนวปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมา นอกจากนี้ มีการพิจารณาการขยายระยะเวลาการนั่งรับประทานอาหาร การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และการเล่นดนตรีสดในร้าน รวมทั้ง การเตรียมเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มีข้อเสนอปรับพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ โดยยังใช้หลักการเดิม คือ ใช้รูปแบบจังหวัดแนวกันชนกับจังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะมีการกระจายโรคไปพื้นที่อื่น และการแบ่งลักษณะพื้นที่ยังคงเดิม คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง

ส่วนจังหวัดที่ไม่พบเชื้อหรือพบเชื้อจำนวนน้อย กรณีนี้แยกออกเป็นรายอำเภอที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคภายในและภายนอกจังหวัดที่แตกต่างกัน โดยจังหวัดอาจพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมแบบบูรณาการตามเกณฑ์รายอำเภอได้ เพื่อความอ่อนตัวในการบริหารจัดการ

เกณฑ์ใช้ปรับพื้นที่จังหวัดตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ คือ สถานการณ์การระบาดของโรคในจังหวัด (ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7-14-28 วัน) จากแผนที่การระบาด, มีแหล่งโรคที่เสี่ยงต่อการกระจายไปพื้นที่จังหวัดหรือภูมิภาคอื่น เช่น สถานบันเทิง บ่อน สนามชนไก่, จังหวัดที่มีพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบเดินทางเข้าประเทศถึงพื้นที่ในเขตชันในของประเทศ และมาตรการเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน สถานประกอบการ และพบสัดส่วนผู้ติดเชื้อน้อย

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอพื้นที่ผ่อนคลายการใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ โดย พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ลดจาก 5 จังหวัดเหลือ 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร, พื้นที่ควบคุมสูงสุด ลดจาก 23 จังหวัด เหลือ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี, พื้นที่ควบคุม เพิ่มจาก 11 จังหวัดเป็น 20 จังหวัด, พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด ลดจาก 38 จังหวัดเหลือ 17 จังหวัด และ เพิ่มพื้นที่ประเภทใหม่คือ พื้นที่เฝ้าระวัง 35 จังหวัด โดยจะแผนที่นี้ในการดำเนินการตามมาตรการหลังจากนี้

เรื่องการผ่อนปรนในร้านอาหาร ในกรณี จ.สมุทรสาคร ที่ยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สิ่งที่ให้ปิดก่อนหน้านี้ก็ยังปิดเหมือนเดิม เช่น ผับ บาร์ สนามมวย ยิม โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา สนามเด็กเล่น ส่วนที่ให้เปิดได้บ้างตามระยะเวลา เช่น ตลาดนัด ร้านอาหารให้ซื้อกลับไปบริโภคที่อื่น และเปิดไม่เกิน 21.00 น. ศูนย์การค้าให้จำกัดเวลาเปิดไม่เกิน 21.00 น. ศูนย์เด็กเล็กและสถานที่พักของผู้สูงอายุเฉพาะที่เข้าพักเป็นประจำให้เปิดได้ สถานประกอบการโรงงานต้องมีการกำกับมาตรการป้องกันโรคในองค์กรและจัดให้มีระบบการติดตามตัวผู้เข้าออกทุกคน

ส่วนการจัดการเรียนการสอนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลให้เปิดได้ได้โดยต้องคำนึงถึงมาตรการป้องกันโรค เช่น การสลับเวลาเรียน การเว้นระยะห่าง หรือใช้ออนไลน์มาเสริม ส่วน จ.สมุทรสาคร ยังให้ปิดอยู่ ทั้งนี้ ข้อเสนอนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อนำเข้าที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว