‘ไทย’ ยังต้องลุ้นวัคซีนโควิด-19 ​ล็อตแรก ​เดือน ก.พ.​

‘สธ.’ เร่งคุย​ EU เปิดทาง ย้ำ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ‘อนุทิน’​ เผย ครม. อนุมัติงบฯ เพิ่มอีก​ 3 พันล้านบาท พร้อม จี้ อย. เร่งพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัคซีน “ซิโนแวค​” จากจีน

เมื่อวันที่​ 3​ ก.พ.​ 2564​ ที่ กระทรวง​สาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง ถึงความคืบหน้าวัคซีนว่า ถือเป็นวาระเร่งด่วน ที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องเร่งจัดหา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์นี้ รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันจัดหาให้ได้วัคซีนเร็วที่สุด โดยได้มอบหมายงานแต่ละเรื่องที่เกี่ยวข้อง ให้กับคณะกรรมการต่าง ๆ ดูแล เช่น คณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีน

ส่วนเรื่องของการจัดหาวัคซีนให้ได้มาก่อนที่วัคซีนล็อตใหญ่จาก บริษัท แอสตราเซเนกา ที่ไทยโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ รับถ่ายเทคโนโลยี​ผลิตทั้งหมด 26 ล้านโดส และ 35 ล้านโดส ที่จะเข้ามาในเดือนมิถุนายน ระหว่างนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้พยายามจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นด้วย เช่น ประเทศจีน ที่กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้ องค์การเภสัชกรรม สั่งซื้อวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส จาก บริษัท ซิโนแวค เบื้องต้นได้มีการตกลง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา​ (อย.)​ ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ในเรื่องของการขึ้นทะเบียนไม่ว่าจะเป็น เรื่องการนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามมาตรฐานของผู้ผลิต เพื่อให้ถูกนำมาให้ประชาชน บุคคลที่เกี่ยวข้องในกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้รับวัคซีนในช่วงแรกนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด หากวัคซีนไม่มีปัญหาในเรื่องของการอนุมัติให้ส่งออกจากประเทศจีน น่าจะมาถึงประเทศไทยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางองค์การเภสัชกรรม ได้เตรียมเอกสารสำคัญที่ ทางบริษัท​ต้นทางร้องขอมา เพื่อนำไปให้รัฐบาลจีนพิจารณา ออกใบอนุญาตการส่งออก เพื่อที่จะทำให้วัคซีนนี้มาถึงประเทศไทยโดยเร็ว

ขณะเดียวกัน วานนี้ (2 ก.พ.) คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ 3,670.29 ล้านบาท  ในการนำไปใช้ดำเนินการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชน ประกอบด้วย ค่าวัคซีนส่วนที่เหลือ 40 % ของราคาวัคซีนทั้งหมด วงเงิน จำนวน 1,575.60 ล้านบาท และเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม วงเงิน จำนวน 110.29 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น จำนวน 1,685.89 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการวัคซีนและค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องอีกกับการเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่ เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน จำนวน 1,984.40 ล้านบาท

“ในที่ประชุมได้มีการพูดถึง ปัญหาการจัดส่ง วัคซีน​แอสตราเซเนกา ที่ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติทำการเจรจา ขอให้จัดส่งวัคซีนจำนวนแรก 50,000 โดส ให้ไทยก่อนในเดือนกุมภาพันธ์ แต่มีข่าวออกมา ว่า ติดปัญหาจากทางอียู ในประเด็นดังกล่าว ยังคงต้องติดตาม และรอสรุปจากที่ประชุมอีกครั้ง”

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาที่ EU จำกัด การส่งออกวัคซีนแอสตราเซเนกา เบื้องต้น รัฐบาลไทย อยู่ระหว่างเจรจา ให้ข้อมูล กับทาง EU แล้วว่าจากข้อตกลงที่ทางไทยทำกับ​แอสตราเซเนกานั้น ทำก่อนที่จะมีปัญหาเกิดขึ้น ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว คาดว่า จะมีการพิจารณาผ่อนปรนในข้อนี้ให้ได้ ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบการจัดส่งวัคซีนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่วัคซีนล็อตใหญ่จะเข้ามาลำดับถัดไป  เช่นเดียวกับ วัคซีนจากซิโนแวค ซึ่งทาง อย. ต้องพิจารณาในการเร่งขึ้นทะเบียนวัคซีนเพื่อนำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยไม่น่าเป็นกังวลเนื่องจากวัคซีนจาก 2 บริษัทอยู่ในกรอบระยะเวลาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ยังไม่ขอระบุวันที่จะถึงไทย

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS