กลุ่ม Beach For Life และภาคี เคลื่อนขบวนมาปักหลักยังบริเวณใกล้ทำเนียบฯ เรียกร้องนายกฯ แก้ปัญหา หลังไม่ได้รับการเห็นชอบข้อตกลงจากกระทรวงทรัพย์ฯ และกรมโยธาฯ
วันนี้ (7 ธ.ค. 2565) เครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด กลุ่ม Beach For Life และภาคี ยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้มีการปรับแก้นโยบายการสร้างกำแพงกันคลื่น โดยมีการเดินทางจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปยังบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับหลักการข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ และสั่งการไปยังหน่วยงานต่าง
อภิศักดิ์ ทัศนี ผู้ประสานงาน Beach for life กล่าวว่า พวกเรามีเจตนาที่ต้องการจะปกป้องชายหาดของประเทศไทยจากการทำลายด้วยอำนาจของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะผู้มีอำนาจในการป้องกันชายฝั่งฯ จากปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง และการปล่อยให้กำแพงกันคลื่นสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ทำให้ชายหาดกว่า 2,000 กิโลเมตร ถูกทำลายด้วยกำแพงกันคลื่นเสียหายมหาศาล และเป็นการใช้งบประมาณโดยไม่จำเป็น
โดยตลอด 1 วันที่ผ่านมา เครือข่ายได้ปักหลักหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเรียกร้องให้ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเอากำแพงกันคลื่นกลับมาทำ EIA แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐมนตรีดังกล่าว และก็ยังไม่บรรลุ 3 ข้อเรียกร้องที่ก่อนหน้านี้ได้มีกายื่นเรื่องถึงรัฐบาลไว้ คือให้เลิกมติ ครม. ที่ให้อำนาจกรมโยธาธิการฯ เป็นผู้ก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ซึ่งเป็นต้นตอทำให้กรมโยธาฯ มีอำนาจในการป้องกันชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายกับชายหาดทั้งประเทศ ให้กำแพงกันคลื่นกลับมาทำ EIA และกลับมาฟื้นฟูชายหาด ซึ่งยังไม่บรรลุเป้าประสงค์ทั้ง 3 ข้อ
“รัฐมนตรี วราวุธ ไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยการเอากำแพงกันคลื่นกลับมาทำ EIA และหากรัฐบาลยังไม่จริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้อง เราจึงจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุม และแสดงอารยะขัดขืน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพพวกเรามีเจตนาที่จะรักษาทรัพยากรหาดทราย ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติให้กับลูกหลานต่อไป วันนี้เราจึงเดินไปที่หน้าทำเนียบเพื่อพูดแทนหาดทราย โดยการปิดวาจาไม่พูด เดินอย่างสงบ เพื่อให้พวกท่านได้เห็นว่า หาดทรายก็ไม่สามารถพูดได้เช่นกัน”
ผู้ประสานงาน Beach for life กล่าวเพิ่มเติมว่า การแสดงเชิงสัญลักษณ์ผ่านการผูกเชือกสีขาวที่ข้อมือ เปรียบเหมือนชายหาดที่ถูกยัดเยียดให้ทำกำแพงกันคลื่น ถูกมัดมือชกว่าชายหาดไทยทั้งประเทศจะต้องเป็นกำแพงกันคลื่น และการเดินอย่างสงบ พร้อมปิดวาจาคือนัยที่แสดงออกถึงหาดทรายว่าไม่เคยได้แสดงออกถึงความคิดความรู้สึก และเป็นผู้ที่ถูกกระทำโดยชัดเจน
คอลดูน ปาราเร่ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด ระบุว่า วันนี้จะนั่งปักหลักกันจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่ารัฐบาลยอมรับในเงื่อนไขข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อข้างต้น โดยจะค้างคืนในที่สาธารณะบริเวณใกล้กับทำเนียบรัฐบาลให้มากที่สุด และเวลานี้เองมีตัวแทนชาวบ้านที่เป็นภาคีเครือข่ายจากภาคใต้ และภาคตะวันออก กำลังเตรียมเดินทางเข้ามาชุมนุมสมทบเพิ่มเติมโดยคาดว่าจะถึงที่หมายในช่วงเช้าวันถัดไป
“เราอยากให้รัฐบาล กับผู้บริหารระดับนโยบายสั่งการลงไปถึง 3 ข้อเรียกร้องนั้น โดยเราจะนั่งให้นานที่สุดจนกว่าจะได้มีการเห็นชอบตามข้อเรียกร้อง และจะมีพี่น้องเครือข่ายภาคใต้ และภาคตะวันออก ทยอยมาสมทบเพิ่มเติม เรื่องการสลายการชุมนุมเราไม่กลัว และคิดว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราไม่ได้ก่อความวุ่นวายเพียงทำอารยะขัดขืน เรามาสองมือเปล่า ถูกพันธนาการอย่างนี้ไม่ได้ทำความเดือนร้อง และได้มีการแจ้งสถานีตำรวจในท้องที่เพื่อขออนุญาตการชุมนุมอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว”
โดยหลังจากปรับปรับประมาณ 30 นาที ตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยระบุว่า จะนำเรื่องไปพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป รวมถึงยังขอร้องให้ผู้ชุมนุมชุมนุมตามสิทธิโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นซึ่งทางผู้ชุมนุมก็รับปากและยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมอย่างสันติ
อ่านเพิ่มเติม
ชุมนุมเรียกร้อง ‘วราวุธ’ แก้ปัญหากำแพงกันคลื่น