ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง ประชาชนได้รับผลกระทบ 161,605 ครัวเรือน รวมมีผู้เสียชีวิต 8 คน เผยเจ้าหน้าที่เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
วันนี้ (17 ธ.ค. 67) ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. – 17 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ตรัง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และ นราธิวาส รวม 114 อำเภอ 766 ตำบล 5,657 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 762,163 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 37 คน
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด รวม 54 อำเภอ 339 ตำบล 2,676 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 161,605 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 คน โดยสถานการณ์น้ำท่วม และผลกระทบภาพรวมทั้ง 6 จังหวัด ประกอบด้วย
- จ.ชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว, อ.เมืองฯ, อ.สวี, อ.ทุ่งตะโก, อ.หลังสวน, อ.ละแม, อ.พะโต๊ะ และ อ.ท่าแซะ รวม 62 ตำบล 540 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,277 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองหลังสวนระดับน้ำลดลง
- จ.ระนอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี, อ.ละอุ่น และ อ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,070 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองญวนระดับน้ำลดลง
- จ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 15 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ, อ.ไชยา, อ.ท่าฉาง, อ.เมืองฯ, อ.กาญจนดิษฐ์, อ.ดอนสัก, อ.บ้านนาสาร, อ.เกาะพงัน, อ.เกาะสมุย, อ.วิภาวดี, อ.เคียงซา, อ.เวียงสระ, อ.บ้านนาเดิม, อ.พุนพิน และ อ.คีรีรัฐนิคม รวม 91 ตำบล 667 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,992 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จ.นครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อ.ขนอม, อ.สิชล, อ.นบพิตำ, อ.ท่าศาลา, อ.พิปูน, อ.พรหมคีรี, อ.ฉวาง, อ.เมืองฯ, อ.ลานสกา, อ.ช้างกลาง, อ.พระพรหม, อ.ปากพนัง, อ.นาบอน, อ.ร่อนพิบูลย์, อ.เฉลิมพระเกียรติ, อ.ทุ่งสง, อ.เชียรใหญ่, อ.จุฬาภรณ์, อ.หัวไทร, อ.บางขัน และ อ.ชะอวด รวม 143 ตำบล 1,223 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 115,722 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 5 คน ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำลดลง
- จ.ตรัง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 1 อำเภอ ได้แก่ อ.รัษฎา รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22 ครัวเรือน ปัจจุบันแม่น้ำตรังมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จ.พัทลุง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนขนุน, อ.เมืองฯ, อ.ศรีนครินทร์, อ.เขาชัยสน, อ.กงหรา และ อ.ป่าพะยอม รวม 29 ตำบล 201 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,522 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองนาท่อมระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ปภ. ได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (KA 32) เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงทีม ปภ.ส่วนหน้า ยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เร่งประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
‘อนุทิน’ ย้ำ น้ำท่วมเพราะฝนหนักเกินปกติ เร่งเยียวยาผู้ประสบภัย
ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุถึงการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัย จะได้ครัวเรือนละ 9,000 บาท ตามเกณฑ์ และจ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว ใครที่ได้แล้วจะไม่ได้อีก แต่หากบ้านเรือนใดที่ได้รับความเสียหายหนักก็ต้องว่ากันไปตามแต่ละกรณี เช่น น้ำพัดบ้านไปทั้งหลัง ก็จะมีระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลอยู่ แต่ตอนนี้ขอเน้นเรื่องของการเยียวยา ซึ่งได้สำรวจตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ และมีคณะกรรมการมาตรวจสอบว่า เสียหายจริงหรือไม่ ไม่ได้ปูพรหมแจก รัฐบาลต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง
อนุทิน ยังย้ำว่า น้ำท่วม น้ำหลากครั้งนี้เกิดจากฝนตกอย่างหนาแน่น ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นก้อนน้ำยิ่งกว่ามวลน้ำ มีปริมาณมากกว่าปกติ โดยฝนจะตกอยู่ที่ประมาณ 50-100 มิลลิเมตร แต่รอบนี้ จ.นครศรีธรรมราช จังหวัดเดียวซัดไป 500 มิลลิเมตร ถือเป็นภัยธรรมชาติที่แท้จริง “ไม่ใช่ว่ารัฐบาลบริหารจัดการน้ำไม่ดี”
“สถานการณ์ที่ภาคใต้เท่าที่ได้รับรายงาน ส่วนใหญ่เป็นทางผ่านของน้ำ เวลาน้ำมาก็มาเต็มที่ และไปเร็ว ไม่ได้อยู่นานที่ต้องทำให้ประชาชนอพยพเป็นเดือน ๆ ซึ่งรัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ทุกอย่างแล้ว เช่น ศูนย์พักพิง เครื่องมืออุปกรณ์และการฟื้นฟู เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย”
อนุทิน ชาญวีรกูล
นายกฯ ลงติดตามน้ำท่วมใต้บ่ายนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขยับเวลาประชุมเร็วขึ้นจากเดิมในเวลา 10.00 น. เพื่อลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อม รองนายกฯ อนุทิน, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึง ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี
โดยนายกฯ และคณะเดินทางจากออกเดินทางจากดอนเมือง ด้วยเครื่องบินกองทัพบก ในเวลา 13.00 น. ไปยังท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช และเดินทางต่อไปที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ และเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย