ปชช. กังวลตกหล่น จากหลักเกณฑ์ใหม่ไม่สะท้อนความเป็นจริง ด้านนักวิชาการแนะแก้ปัญหาด้วยสวัสดิการพื้นฐานถ้วนหน้า
วันนี้ (8 ก.ย.) The Active สอบถามประชาชนเกี่ยวกับการลงทะเบียนรอบใหม่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม สมัย ปารวัฒน์ ชาวเขตสัมพันธวงศ์ ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ บอกว่าเงิน 300 บาท ที่เคยได้จากบัตรแต่ละเดือนช่วยได้มาก บางครั้งซื้อข้าวสารอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน เงินจำนวนนี้มากกว่าค่าแรงรายวันซึ่งเธอทำงานรับจ้างได้เพียงครั้งละ 150-200 บาทเท่านั้น จึงหวังว่าการลงทะเบียนรอบใหม่จะยังได้รับบัตรเช่นเดิม
ขณะที่ ทองคูณ โพสลิต ไม่ได้รับบัตรฯก่อนหน้านี้เพราะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีเกิน 1 แสนบาท เขาบอกว่าจะลองลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง และหวังว่ารอบนี้จะได้รับบัตรเนื่องจากไม่มีงาน รายได้เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่อีกหลายคนที่ลงทะเบียนไปแล้วก่อนหน้าบอกว่ากังวลว่าอาจตกหล่น เนื่องจากหลักเกณฑ์ไม่สะท้อนความเป็นจริง
ความคิดเห็นนี้สอดคล้องกับ เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ยกตัวอย่างกรณีของเกษตรกรซึ่งอาจถือครองที่ดินเกิน10 ไร่ ซึ่งเกินกว่าเงื่อนไขที่กำหนด แต่หากพิจารณารายได้ จะพบว่าส่วนใหญ่จะไม่ถึง 1 แสนบาท นี่อาจทำให้เกษตรกรตกหล่นจากการลงทะเบียนรอบใหม่
“ความจริงการที่เขามีที่ดินเกิน 10 ไร่ ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีรายได้เกิน 1 แสนบาท รายได้สุทธิของเกษตรหลายชนิด มีราคาขายแค่หลักพัน ยังไม่รวมต้นทุน เผลอ ๆ ขาดทุน พอเอาเกณฑ์นี้มาเป็นเกณฑ์ ก็จะทำให้คนตกหล่นเป็นอย่างมาก”
เดชรัต เสนอเพิ่มเติมว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาคนจนและค้นหาคนจนให้เจอ แต่ในความเป็นจริงการคัดกรองลักษณะแบบนี้ ท้ายที่สุดก็ยังมีคนจนตัวจริงตกหล่นอยู่ดี จึงเสนอให้ใช้สวัสดิการถ้วนหน้ากับสิ่งที่เป็นพื้นฐานของชีวิต เช่น การศึกษา สุขภาพ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาทั้ง 2 เรื่องนี้มีความพยายามถ้วนหน้าอยู่แล้ว แต่ยังพบว่าคุณภาพและการเรียนฟรีก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง ขณะที่เบี้ยคนชราก็ควรปรับตัวเลขให้มากพอซี่งที่ผ่านมาไม่ได้ปรับนานแล้ว และที่สำคัญที่ต้องทำควบคู่คือการการกระจายโอกาส เก็บภาษีความมั่งคั่ง เพื่อสร้างสวัสดิการถ้วนหน้า
“สร้างสวัสดิการพื้นฐานถ้วนหน้า เพื่อสร้างโอกาสที่สำคัญในชีวิต แก้ปัญหาการตกหล่นความช่วยเหลือ ลองมองมุมใหม่ถ้าเราเก็บภาษีความมั่งคั่ง 0.1 จากคนที่มีรายได้มากสุด 1 % เอามาเติมโอกาสให้คนที่กำลังจะหลุดออกจากระบบการศึกษาได้เรียนต่อ เราไม่ได้เก็บภาษีคนรวยเพื่อลงโทษ แต่สร้างโอกาสของคนมากระจายลงทุนให้คนในสังคมมากกว่า”
ข้อมูลจากเว็บไซต์กระทรวงการคลัง ณ วันที่ 6 กันยายน พบประชาชนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แล้วทั้งสิ้น 4,057,960 คน โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 3,372,108 คน และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 685,852 คน โดยสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงานได้แก่สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินธนาคารกรุงไทยจำกัด(มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศสังกัดกรมบัญชีกลางที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศภายใต้กระทรวงมหาดไทยสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขตและศาลาว่าการเมืองพัทยาเมืองพัทยาตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 และ สามารถตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ได้ที่ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/
