เตรียมเสนอตั้ง ‘บิ๊กโจ๊ก’ นั่งประธานแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินเกาะหลีเป๊ะ

เดินหน้าตรวจสอบเอกสาร พิสูจน์สิทธิที่ดิน ส่วนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน มอบนายอำเภอเจรจาเอกชนเปิดทางยุติการเผชิญหน้าด้านตัวแทนชาวเล และภาคประชาชน  หวั่นเอกชนเข้ามาทำรั้วปิดกั้นอีก อยากให้ รมต.หรือผู้มีอำนาจ ออกคำสั่งให้ทุกฝ่ายยุติหรือระงับเหตุการณ์ไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบ 

วันนี้ (15 ธ.ค.65 )  อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยงลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อติดตามปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านนักเรียนพร้อมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้อพิพาทเส้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัวแทนชาวเลและภาคประชาชนในพื้นที่

ภายหลังการประชุม ได้มีการแถลงข้อสรุป ว่าในระยะเร่งด่วน ได้ฝากทางอำเภอ ทางจังหวัด พูดคุยกับผู้ที่เป็นข้อพิพาทกัน ในการที่จะประนีประนอมอยู่ร่วมกัน เพื่อที่จะให้สังคมทุกภาคส่วนเดินไปได้ 

ในส่วนของการตรวจสอบก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ ในส่วนนี้ได้พูดคุยกัน แล้วได้ข้อคิดเห็นในหลายกรณี  เรื่องที่ดินที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในอดีต การได้มาซึ่งที่ดินเป็นอย่างไร การพิสูจน์สิทธิในสมัยก่อนเป็นอย่างไร ก็จะนำมาเป็นข้อมูล โดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้  

“ตั้งใจว่าจะให้ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานคณะทำงานในเรื่องของการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์บนเกาะหลีเป๊ะและให้ตรวจสอบกรณีพิพาทของเอกชนกับพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้นโดยมี ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรมเป็นฝ่ายเลขาฯแล้วก็มีหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานจะนำเข้ามาเป็นส่วนประกอบโดยจะมีการนำเสนอเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจแต่งตั้งซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด “ 

อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากกรมที่ดิน ดีเอสไอ นักวิชาการอิสระ เช่น จิสด้า ที่ได้ทำข้อมูลอยู่และข้อมูลในพื้นที่ โดยเฉพาะเอกชนเกาะหลีเป๊ะ ทางจังหวัดสตูลเอง เราจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อได้ให้ข้อยุติ ส่วนการที่จะไปดำเนินการในชั้นศาลนั้น เราคิดว่าทางกระทรวงยุติธรรมก็คงได้อำนวยความสะดวกกับประชาชนอย่างเต็มที่ ในเรื่องการเป็นตัวแทน หรือการที่จะได้มีส่วนช่วยให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มรูปแบบ กระทรวงยุติธรรมจะเป็นแม่งาน เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ต้องเข้าสู่กระบวนการ เพราะเรื่องนี้ต้องพิสูจน์สิทธิ์กันพอสมควร จึงไม่ใช่จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างเดียว สิทธิที่ประชาชนต้องได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ เหนืออื่นใดอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมเราคงพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้ 

ส่วนในระหว่างนี้จะมีการคุ้มครองสวัสดิภาพชาวบ้านอย่างไร ​อนุชา ตอบว่า ไม่มีใครกล้าหรอกครับขอยืนยัน การเผชิญหน้าตนไม่อยากให้เกิด ฝากทางจังหวัดให้ช่วยดูในเรื่องของการเผชิญหน้า ก็ฝากถึงประชาชนด้วยเหมือนกัน การดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ ให้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เหมือนกันภาคเอกชนที่คิดว่าจะทำอะไรก็ให้นึกให้หนักๆ 

มั่นใจว่าทุกฝ่ายในวันนี้พอใจข้อสรุป ยกเว้นฝ่ายที่ไม่ได้มา คือภาคเอกชนนั้นต่างพอใจ เพราะว่าตนทำอะไรแบบตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรเคลือบแฝง เมื่อเราตรงไปตรงมาทุกฝ่ายก็พอใจ 

พร้อมยอมรับตนไม่ได้เขิญฝ่ายเอกชน เพราะต้องการได้ข้อมูลข้อเท็จจริงจากการลวพื้นที่ของตนเอง เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ ไม่จำเป็นที่ต้องไปเชิญเขามา ในส่วนนี้เราคิดว่าเราจะได้ดำเนินการให้มันถูกต้องตามกระบวนการ

ส่วนที่ฝ่ายเอกชนนำเสนอว่ากรณีนี้เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม และจะคุยกับคณะทำงาน ​อนุชาตอบว่าตรงนี้คือทุกอย่างอยู่บนกระบวนการ ตนอยากเห็นอยู่แล้ว ถ้าเขาอยากให้สังคมเดินไปด้วยความสงบ เขาต้องเจียดอะไรบางอย่างเพื่อเยียวยาให้ประชาชนที่เขาไม่มีโอกาสต่อสู้ หรือเขามีกำลังน้อยกว่าได้มีโอกาสยืนขึ้นมา ได้มีโอกาสแบ่งสรรปันส่วนจากทรัพยากรประเทศได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“ถ้าท่านทำได้จะเป็นอนิสงส์ให้เกาะหลีเป๊ะเจริญ ผู้คนอยู่อย่างมีความสุข ถ้าท่านดึงพวกเขาเดินไปกับท่านได้ ก็ฝากผู้ประกอบการทุกท่านดึงคนเหล่านี้ขึ้นมาเดินกับท่านหน่อย ทุกอย่างจะสงบสุข ให้พวกเขามีที่อยู่ ที่ทำกินที่เขาควรที่จะได้สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประเทศ เขาอยู่มาเป็นร้อยปีแล้ว ถ้าท่านจะทอดทิ้งเขาก็ไม่รู้จะว่ายังไง“

อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ตัวแทนชาวเล ภาคประชาชนในพื้นที่ ยังไม่มั่นใจ หวั่นเอกชนเข้ามาทำรั้วปิดกั้นอีก เรียกร้องผู้มีอำนาจ ออกคำสั่งให้ทุกฝ่ายยุติหรือระงับเหตุการณ์ไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบ 

ด้าน แสงโสม หาญทะเล ครูชำนาญการโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ ในฐานะตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ  สะท้อนว่ายังไม่มั่นใจกรณีที่จะให้ทางจังหวัดเจรจากับเอกชน โดยประชาชนต้องเฝ้าระวังอยู่ดี เพราะหลายครั้งหลายคราวที่มีการคุยการเจรจา เอกชนก็ยังยืนยันสิทธิ์ว่าเขามีสิทธิในที่ตรงนี้ตามเอกสาร หลายครั้งมีการเจรจาคุยกับนายอำเภอ คุยกับปลัด แต่สุดท้ายก็ยังเข้ามาทำรั้วปิดกั้นอีก จึงไม่มั่นใจ 

“อยากเห็นการแก้ไขปัญหา ให้รัฐมนตรีออกหนังสืออะไรบางอย่าง เป็นการสั่งการให้ทุกฝ่ายระงับเหตุการณ์ไว้ก่อน ให้รอการตรวจสอบ “ 

แสงโสม หาญทะเล ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

เช่นเดียวกับ ​​จำนงค์  จิตรนิรัตน์  ในฐานะคณะกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง เห็นว่า อาจจะมีสถานการณ์ที่จะเผชิญหน้ากันได้อีก เช่นการรางวัดที่ ยังคลุมเครือเรื่องสิทธิมีความเชื่อกันคนละอย่างชาวเลเชื่อเรื่องสิทธิ์ที่อยู่มาก่อน ผู้ครอบครองเอกสารบอกเขาถูกต้อง แล้วการรังวัดจะทำให้เกิดประเด็นมาอีกแม้รัฐมนตรีอนุชาจะพยายามสื่อสารกับหลายหน่วย แต่โอกาสจะเกิดมี เพราะว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีการเจรา มีการตกลง ก็เกิดการเผชิญหน้า 

ส่วนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ และข้อพิพาทที่ดิน โดยมีพล.ต.อ.เอกสุรเชษฐ์ เป็นประธาน ​จำนงค์เห็นว่า ถือเป็นหน่วยใหม่ที่เป็นความหวัง เพราะจะมีการติดตามความคืบหน้าเรียกข้อมูลฝ่ายต่าง ๆ เอามาแถลง คือที่ผ่านมาข้อมูลการตรวจสอบไม่เคยมีการแถลงต่อสาธารณะ ซึ่งถ้าหากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำแบบคดีอื่นที่ทำอยู่  ไปดู ไปตรวจสอบต่อสาธารณชน อันนี้น่าจะทำให้เรื่องนี้ขึ้นสู่สาธารณะและเป็นตัวเร่งหน่วยงานอื่นให้แก้ไขปัญหา ทั้งนี้จับตาหลังตั้งคณะทำงานแล้วต้องมีการลงพื้นที่ตรวจสอบจริงจัง 

“ต้องเห็นความคืบหน้าภายใน 20 วัน ซึ่งภาคประชาชนจะติดตามต่อเนื่อง ทั้งนี้เห็นว่า คณะกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง ต้องมีการประชุม เอาข้อมูลรวบรวมเรื่องต่างๆเพื่อเดินหน้าแก้ปัญหา“