เดินหน้าดันนับคาร์บลด NCDs ต่อเนื่อง ขณะที่ “หมอสุภัทร” โพสต์เฟซบุ๊ก อนุทินมาแล้วหมอจะรอดไหม? เผยกระแสข่าวลือ “ปลัดโอภาส” จ่อขึ้นเป็น “รมว.สธ.” หากภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลสำเร็จ ยันพร้อมสู้เต็มกำลัง
วันนี้ (30 ส.ค. 68) ที่วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง จ.สุโขทัย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการ “มหกรรมรวมพล อสม. ตรวจสุขภาพชุดสิทธิประโยชน์ใหม่ คนไทยห่างไกล NCDs” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส.ส.พื้นที่ อบจ. และ อสม. เข้าร่วมอย่างคึกคัก
สมศักดิ์ บอกว่าวันนี้เป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ แต่ตนได้ลาประชุมเพื่อมาพบ อสม. ตามกำหนดการที่วางไว้ล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้ว พร้อมขออย่าให้มีการตีความเป็นอย่างอื่น
รมว.สธ.กล่าวชื่นชม อสม. ในฐานะ “หมอคนที่หนึ่ง” ใกล้ชิดประชาชนที่สุด และเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยล่าสุดมีประชาชนกว่า 41 ล้านคน ได้รับความรู้เรื่องการนับคาร์บ และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 50 ล้านคนภายในสิ้นกันยายนนี้
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ กระทรวงสาธารณสุขจึงประกาศเพิ่มสิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพประจำปี อสม. อีก 4 รายการ ได้แก่ เอกซเรย์ปอด, ตรวจปัสสาวะทั่วไป, ตรวจไขมันในเลือด และตรวจค่าไต ทำให้มูลค่าการตรวจเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จากเดิมชาย 335 บาท เป็น 855 บาท และหญิงจาก 585 บาท เป็น 1,105 บาท พร้อมย้ำว่าในระยะยาว กระทรวงฯ กำลังผลักดัน พ.ร.บ. อสม. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสวัสดิการ
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ในรัฐบาลรักษาการ หลังจาก น.ส. แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นไปด้วย ครม. มีมติให้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่มีรัฐมนตรีที่ลาประชุม 7 คน ประกอบด้วย
1.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
2.สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
3.จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
4.สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
5.อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
6.อัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
7.สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ในจำนวนนี้มีรัฐมนตรีจากพรรคกล้าธรรม 3 คน คือ นฤมล, อรรถกร และอัครา ซึ่งไปร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยก่อนหน้าเมื่อวาน เช่นเดียวกับ สุชาติ ชมกลิ่น สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย 3 คน ที่ลาประชุมด้วย คือสมศักดิ์, สุชาติ ตันเจริญ และจุลพันธ์
“หมอสุภัทร” โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทินดูจะมาแน่ แล้วหมอจะรอดไหม”
วันเดียวกัน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมือง และการจัดตั้งรัฐบาล โดยเริ่มต้นด้วยประโยคว่า
“อนุทินดูจะมาแน่ แล้วหมอจะรอดไหม”
นพ.สุภัทร ระบุว่า ช่วงนี้มีผู้โทรศัพท์เข้ามาจำนวนมาก ทั้งเพื่อให้กำลังใจ แสดงความห่วงใย และแลกเปลี่ยนสถานการณ์ โดยประเด็นหลักที่ผู้คนพูดถึงคือความเป็นไปได้ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะกลับมามีบทบาทสำคัญทางการเมือง หลังจากที่ “อุ้งอิ้ง” ไม่สามารถเดินหน้าทางการเมืองต่อได้
“อนุทินดูจะมาแน่ หมอจะไหวไหม ลือถึงขั้นที่ว่า ถ้าหนูเป็นนายก ปลัดโอภาสจะขึ้นมาเป็น รมว.สาธารณสุข!!”
ในโพสต์ยังสะท้อนมุมมองต่อเกมการเมืองว่า พรรคภูมิใจไทยเพียงแค่ “เปิดเกมเร็วกว่า” และเป็นที่รู้กันว่าเป็นพรรคที่มีผลประโยชน์เป็นธงนำ ขณะที่พรรคเพื่อไทยอาจเดินเกมการเมืองหลายทาง ทั้งการรวบรวมเสียงโดยไม่พึ่งพรรคก้าวไกล การจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่ทางเลือกยุบสภา แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม
นอกจากนี้ นพ.สุภัทรยังกล่าวถึงพรรคประชาชนว่า เป็นที่น่านับถือในจุดยืนที่เสนอเงื่อนไข 3 ข้อเพื่อผ่าทางตันของประเทศ โดยไม่ขอเข้าร่วมรัฐบาล แม้จะมีอำนาจต่อรองสูงสุด พร้อมชี้ว่าเป็นการมองเกมยาวเพื่อแก้โครงสร้างการเมืองไทย
ตอนหนึ่งของโพสต์ นพ.สุภัทร ยืนยันจุดยืนว่า
“ไม่ว่าใครจะไปจะมา ผมก็สู้เต็มกำลังของผม ไม่ต้องห่วง ไม่มีการเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบขอขมา เกิดมาต้องยึดมั่นในหลักการ ยิ่งในภาวะวิกฤต ยิ่งเป็นบทพิสูจน์ตัวตน”
พร้อมทิ้งท้ายด้วยการสะท้อนความรู้สึกว่า ข้าราชการตัวเล็ก ๆ อย่างเขา ก็ไม่สามารถแยกขาดจากสถานการณ์ทางการเมืองได้
“อนาคตข้าราชการตัวเล็กๆอย่างผม ได้ถูกทำให้ผูกติดกับสถานการณ์ทางการเมืองอย่างแกะไม่ออกจริงๆ พับผ่าสิ!!”
โพสต์ดังกล่าวถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงการเมืองและสาธารณสุข
