ที่ปรึกษาพีมูฟ ย้ำตัวชี้วัดความจริงใจรัฐบาล คือเร่งสางปัญหาด่วน 3 เรื่องให้แล้วเสร็จใน 30 วัน พร้อมเดินหน้าสร้างพลังเครือข่าย เรียกร้องสังคมร่วมจับตาความท้าทายที่จะมีผลแทรกแซงให้การแก้ปัญหาและนโยบาย 10 ด้านภาคประชาชนล่าช้า
เมื่อวันที่ (17 ต.ค. 66) ภายหลังการประชุมร่วมของตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ กับ หน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ในคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือพีมูฟ ซึ่งประกอบด้วย คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ,คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ,คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ ,คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ ,คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะ และบุคคล , คณะอนุกรรมการสิทธิที่อยู่อาศัยและการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ,คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาพีมูฟ เปิดเผย กับ The Active ว่าได้ข้อสรุปทั้งหลักแนวทางการแก้ไขปัญหา กลไก ไปจนถึงกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เห็นและติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอีก 263 กรณี ที่ถูกจัดกลุ่มและยกระดับเป็นการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้านได้
เนื่องจากจะถูกแก้ปัญหาภายใต้แนวทาง 6 ข้อ และนโยบาย 10 ด้าน จะถูกขับเคลื่อนโดยกลไกอนุกรรม 7 ชุดที่จะต้องมีการประชุมความคืบหน้าแก้ปัญหาทุกเดือน และข้อสรุปจากที่ประชุมอนุกรรมการ จะถูกส่งต่อยังที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯเป็นประธาน ทุก ๆ 2 เดือน และนำข้อสรุปการแก้ปัญหาเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
เรื่องไหนที่คืบหน้าจากรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งยังเป็นเรื่องเร่งด่วน 3 กรณี คือข้อพิพาทที่ดินเกาะหลีเป๊ะ, ปัญหาชาวกะเหรี่ยงบางกลอย, และพื้นที่ชุมชนคลองโยง โฉนดชุมชนแห่งแรก ที่กรมทางหลวงชนบทศึกษาเส้นทางแนวถนนตัดผ่านพื้นที่ ก็ให้เดินหน้าแก้ปัญหาทันทีภายใน 30 วันส่วนเรื่องที่เป็นปัญหากลาง ๆ ก็ให้เร่งสรุปแก้ปัญหาให้เสร็จใน 90 วัน และเรื่องที่มีรายละเอียด ก็ใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี
เรื่องที่จะผลักดันเป็นกฎหมาย กฎกระทรวง เช่น อัตราภาษีที่ดินก้าวหน้า ธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน นิรโทษกรรม รัฐสวัสดิการ การป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยที่กระจายอำนาจชุมชนมีส่วนร่วม และกฎหมายชาติพันธุ์ต้องถูกผลักดันเพื่อเสนอเข้าสู่สภาฯพิจารณา ใน 1 ปี
“คือทุกเรื่องต้องมีความคืบหน้าในแต่ละระดับ โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ ปัญหาเกาะหลีเป๊ะ, กะเหรี่ยงบางกลอย และคลองโยง จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ถึงความคืบหน้าและความจริงใจการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน“
ประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
“ตอนมาวันแรกหนูหวัง 50 % แต่ตอนนี้หวังว่าปัญหาจะถูกแก้ไขได้เป็น 80-90% อีก 10 % เผื่อไว้ ก็อยากให้รัฐบาล คณะกรรมการ แก้ปัญหาต่อเนื่องจากครั้งที่ผ่านมา คือเดินหน้าเพิกถอนเอกสารสิทธิทับที่สาธารณะออกโดยมิชอบ และการชะลอยุติคดีที่กรมอุทยานแจ้งมายังชาวเลเกาะหลีเป๊ะ หวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะแก้ปัญหาได้เร็ว“
ปิ่นมณี หาญทะเล ชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
“อยากให้ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อน คือมีคำสั่งให้ชาวบางกลอย 37 ครอบครัว กลับไปทดลองทำไร่หมุนเวียนที่บางกลอยบน 5 ปี พร้อมทั้งพัฒนาชุมชนที่อยู่ข้างล่าง ก็หวังว่าจะคืบหน้าและเกิดขึ้นได้จริง“
พงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีแนวทาง กลไก กรอบระยะเวลาติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาและนโยบายภาคประชาชนที่ชัดเจน แต่อยากให้สังคมร่วมจับตา ความท้าทายที่จะเข้าแทรกแซง และทำให้การแก้ปัญหาล่าช้า ทั้งกลุ่มธุรกิจที่สนับสนุนการเมือง ที่จะเสียประโยชน์จากการขับเคลื่อนนโยบายประชาชน เช่น กลุ่มที่ดิน บ้านจัดสรร หรือแม้แต่หน่วยงานภาครัฐที่จะถูกลดทอนอำนาจลง จึงต้องใช้พลังสังคม สร้างเครือข่ายให้เกิดการรับรู้ความเข้าใจวงกว้าง รู้เท่าทัน ช่วยจับตา และมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง
“จากนี้คงต้องอาศัยพลังสังคม และพลังเครือข่าย ที่จะต้องสื่อสารเรื่องนี้ให้แพร่หลาย โดยเฉพาะเรื่องท้าทายที่ว่ามาทั้ง 2-3 ข้อ ที่ต้องร่วมจับตาและส่งเสียงเพื่อให้หน่วยงาน รัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างไม่สะดุด และอีกด้านคือการสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงนโยบาย 10 ด้านต่อเนื่อง รวมทั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ผลักดันให้นโยบายเหล่านี้เป็นนโยบายของพรรคการเมือง เจตจำนงทางการเมือง เพื่อให้การผลักดันต่อในกลไกต่าง ๆ ทั้งรัฐสภา หรือฝ่ายนิติบัญญัตเดินหน้า หนุนนโยบาย กฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน“
ประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
จำนงค์ หนูพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารขบวนการประชาขนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ย้ำว่า หากปัญหาประชาชนยังไม่ถูกแก้ไข ตามที่วางแนวทางและกรอบระยะเวลาไว้ ประชาชนจะเคลื่อนไหวอีกครั้งแน่นอน และ จะเป็นการชุมนุมใหญ่ข้ามปี แต่ก็ยังหวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะให้ความสำคัญกับแก้ปัญหาและนโยบายที่ภาคประชาชนร่วมขับเคลื่อน เพราะทั้งหมดที่พีมูฟเรียกร้อง ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาให้กับกลุ่มพีมูฟ แต่การขับเคลื่อนยกระดับจากรายกรณี เป็นนโยบายทั้ง 10 ด้าน จะครอบคลุมการแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทั้งประเทศ