“นิรโทษกรรม” (Amnesty) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “amnēstía” แปลว่า ลืมหรือปล่อยให้ผ่านไป โดยมีอีกคำศัพท์ที่คล้ายกันคือ “Amnesia” แปลว่า ภาวะเสียความจำ ในทางกฎหมายแล้ว กล่าวถึง การลบล้างการกระทำความผิดอาญาที่ผู้กระทำได้กระทำมาแล้ว โดยมีกฎหมายที่ออกมาภายหลังการกระทำผิด กำหนดให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิด และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิด เสมือนว่า ให้ลืมความผิดนั้นไปเสีย
แต่ก่อนเริ่มต้นกระบวนการนิรโทษกรรม “เพื่อจะลืม” ความผิดใดได้นั้น สังคมต้องมีกระบวนการ “พิสูจน์ความจริง” นั้นให้ได้เสียก่อน The Active รวบรวมข้อมูลความพยายามนิรโทษกรรมในประวัติศาสตร์การเมืองช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สู่ความพยายามในการยื่นกฎหมายนิรโทษกรรมไม่น้อยกว่า 14 ครั้ง จากทั้งฟากประชาชน ฟากกลุ่มการเมือง และขั้วอำนาจทหาร จะเห็นว่าไม่มีร่างกฎหมายใดประสบความสำเร็จ บ้างก็ถูกลืม บ้างก็ถูกต่อต้าน แต่มีอยู่เพียง 2 ครั้งที่สำเร็จอย่างราบรื่น คือการนิรโทษกรรมตัวเองโดยคณะรัฐประหารในปี 2549 และ ปี 2557 สะท้อนให้เห็นว่า คณะรัฐประหารได้รับ “อภิสิทธิ์” ปลอดความรับผิดในการก่อรัฐประหารมาโดยตลอด
ที่ผ่านมาเมืองไทยนิรโทษกรรมใคร(ได้)บ้าง?
สาระสำคัญของทุกร่างกฎหมายล้างผิด แบ่งออกเป็น 5 ประเด็น ได้แก่ การล้างผิดคณะรัฐประหาร, ผู้ต้องหาคดีชุมนุมและการเมือง, ผู้ต้องหาคดีอาญาอันเกี่ยวเนื่องมาจากคดีการเมือง (เช่น การใช้อาวุธปราบปรามการชุมนุม), การคืนสิทธิผู้ถูกตัดสิทธิคดีการเมือง และผู้ต้องหาคดีมาตรา 112
จะเห็นได้ว่า สังคมมีขอบเขตของการให้อภัยในแต่ละความผิดที่แตกต่างกัน อย่างผู้ต้องหาคดีการเมืองและการชุมนุมนั้นอยู่ในทุกสาระสำคัญของทุกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม (ยกเว้นฉบับที่คณะรัฐประหารร่างขึ้นมาล้างผิดตัวเอง)
ขณะที่ความผิดในคดีอาญา คดีถูกตัดสิทธิทางการเมือง ตลอดจนคดีมาตรา 112 ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันไปมาในแต่ละฉบับ แต่จากสถิติแล้วจะพบพัฒนาการของ “ขีดจำกัดของการให้อภัย” ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความผิดในคดีอาญา นั้นเป็นเรื่องที่ดูจะ “ไม่ควรถูกลืม” มากขึ้นในช่วงปีล่าสุด นั่นอาจเป็นเพราะการตระหนักรู้ในประเด็นสิทธิ เสรีภาพของการชุมนุมของผู้ชุมนุม และการเผยแพร่มาตรฐานการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักสากล
กลับกัน ความผิดฐานมาตรา 112 ยังเป็นประเด็นที่ไม่มีความชัดเจนมากนักว่าขอบเขตของการล้างผิดควรไปถึงจุดไหน เพราะที่ผ่านมาในช่วง 2555 – 2556 ที่มีจำนวนการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมมากที่สุด แต่แทบทุกฉบับไม่ได้มีการระบุในเนื้อหาว่าควรล้างผิดฐานมาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดว่าจะมองว่าความผิดมาตรา 112 เป็นความผิดสถานเดียวกับคดีการเมืองและการชุมนุมหรือไม่
จุดที่น่าสนใจคือ ในอดีตที่ผ่านมา มีกฎหมายเพียงฉบับเดียวที่มีการกำหนดอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้มี “คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด” ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนิติราษฎร์ ปี 2556 ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจากหลายฝ่าย เพื่อร่วมกันพิสูจน์ความจริง ก่อนจะวินิจฉัยว่าความผิดของใครบ้างที่ควรจะถูกล้างผิด
ท่ามกลางความชุลมุนของสภาฯ ในช่วงปี 2555 – 2556 มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อกฎหมายล้างผิดเป็นจำนวนมาก และยังมีนักโทษการเมืองจำนวนมากที่ยังถูกคุมขังและดำเนินคดี ท้ายที่สุด ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น (ฉบับของวรชัย เหมะ) โดยมีเนื้อหาล้างผิดทุกฝ่าย ไม่เว้นแกนนำ เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ และขอบเขตนี้อาจลากไปจนถึงคนไกลอย่างทักษิณด้วย ขณะที่คนเสื้อแดงบางส่วนมองว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการ “เหยียบศพ” คนเสื้อแดงที่สูญเสียไปในการสลายการชุมนุม ปี 2553
ล่าสุด ในปี 2566 มีความพยายามผลักดันจากกลุ่มการเมือง มี สส. พรรคพลังธรรมใหม่ เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งร่างฉบับนี้จะยกเว้นความผิดให้กับผู้ชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่ 2549 – 2565 แต่ พลเอก ประยุทธ์ และ คณะรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีความพยายามจะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมแต่อย่างใด แม้ทางพลเอก ประยุทธ์ จะร่างกฎหมายยกเว้นความผิดตัวเองในการบริหารราชการแผ่นดินไปแล้วอย่างน้อย 8 ครั้งแล้วก็ตาม
จำนวนจำเลยในคดีชุมนุมทางการเมือง
5 ตุลาคม 2566 พรรคก้าวไกลยื่น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง จากการรายงานของ BBC ระบุว่า กลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายได้รับอานิสงส์จากกฎหมายนี้คือ แกนนำและแนวร่วมชุมนุมทางการเมืองกลุ่มสำคัญ ๆ อาทิ กลุ่ม พันธมิตรฯ, นปช., กปปส., ขบวนการนักศึกษาและประชาชนฝ่ายต่อต้าน คสช. และกลุ่มคณะราษฎร
หากนับเฉพาะการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งสำคัญในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ร่างกฎหมายนี้จะมีจำนวนของจำเลยที่เกี่ยวข้องในแต่ละคดีการชุมนุมทางการเมืองที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 2,500 ราย (ทั้งที่คดีสิ้นสุดแล้วและยังไม่สิ้นสุด) โดยเฉพาะในช่วงการชุมนุมเมื่อปี 2563 – 2566 มีจำนวนของจำเลยมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากรูปแบบการชุมนุมที่เน้นปริมาณ กระจายตัวตามจังหวัดต่าง ๆ ประกอบกับการใช้กฎหมายที่เข้มงวดของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ ซึ่งขณะนี้ (25 ต.ค. 2566) ยังมีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อย่างน้อย 25 คน และเป็นคดีตามมาตรา 112 จำนวน 10 คน
จากการรายงานของ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไปแล้วอย่างน้อย 1,928 คน ในจำนวน 1,249 คดี และในจำนวนนี้ เป็นเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 286 ราย ใน 216 คดี หากนับจำนวนบุคคลที่ถูกดำเนินคดีซ้ำในหลายคดี โดยไม่หักออก แต่นำจำนวนมาเรียงต่อกันแล้ว จะพบว่ามีจำนวนการถูกดำเนินคดีไปอย่างน้อย 3,922 ครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยจำนวนจำเลยในรอบการชุมนุมล่าสุด ทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมดูให้น้ำหนักไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมในปี 2563 – 2566 มากกว่าครั้งไหน ๆ นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า การนิรโทษกรรมนี้จะ “ทะลุซอย” ไปถึงการล้างผิดมาตรา 112 ที่เป็นประเด็นแหลมคมอยู่ ณ ขณะนี้ด้วยหรือไม่ ด้าน ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า การวินิจฉัยเพื่อล้างผิดใด ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการชี้ขาด
“ตอนที่นิรโทษกรรมให้กับเหตุการณ์ 6 ตุลา ก็เป็นเรื่องความผิดมาตรา 112 เป็นหลัก และยังมีคดีกบฏล้มล้างการปกครอง เปิดให้คนที่เข้าร่วมต่อสู้ด้วยอาวุธ เราสามารถที่จะอภัยเพื่อทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปได้ จึงคิดว่าหากไม่มีอคติจนเกินไป ทุกฝ่ายควรจะร่วมกัน”
ชัยธวัช ตุลาธน
อ้างอิง
- 39 “กปปส.” ใครรับโทษแบบไหนบ้าง?
- ศาลฎีกายืนคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา 5 แกนนำ นปช.บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์
- จำนวนผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองยอดรวม 1,928 คน ใน 1,249 คดี
- เปิด 5 ร่างปรองดอง 4 ร่างนิรโทษกรรม ฉบับไหน ใครรอด?
- 13 แกนนำพันธมิตรฯ ต้องชดใช้ 522 ล้าน คดีปิดสนามบิน ปี 51
- ก้าวไกลชงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ย้อนหลังตั้งแต่ชุมนุม “พันธมิตรฯ” ปี 49
- รวมคดีเผาศาลากลางอีสาน โทษทัณฑ์ของมวลชนผู้โกรธเกรี้ยวที่ถูกลืม?
- ส.ว. ชง นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวเนื่องการชุมนุมทางการเมืองปี 48-63
- เปิดรับฟังความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข นิรโทษกรรมคดีชุมนุมการเมือง
- ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องนปช.ก่อการร้ายจัดชุมนุมปี53