ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ประเทศไทยเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คน และผ่านการแถลงนโยบายไปแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง
ล่าสุด คือ การแถลงนโยบายภายใต้รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย ในวันที่ 29 – 30 ก.ย. 2568 เกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนจำนวนไม่น้อย ว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อย และมีเวลาอยู่แค่ 4 เดือนชุดนี้ จะแก้ปัญหาที่ประเทศเผชิญอยู่ ด้วยมาตรการอะไรบ้าง ?
การแถลงนโยบายในหลายครั้งที่ผ่าน ๆ มา พบว่า หลายนโยบายไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เช่น ช่วงรอยต่อของ 2 นายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย ทั้ง เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร สะท้อนให้เห็นการสานต่อนโยบายใหญ่ของนายกฯ จากพรรคเดียวกัน
หรือแม้กระทั่งรอยต่อของแพทองธาร และ อนุทิน ที่ไม่ได้จับมือร่วมรัฐบาลด้วยกันอีกแล้ว ก็ยังมีหลายนโยบายในถ้อยแถลงที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน ซึ่งอาจเกิดมาจากสถานการณ์ปัญหาที่เผชิญอยู่ไม่ต่างกันมาก


The Active ชวนดูคำแถลงนโยบายของรัฐบาล “เสียงข้างน้อย” “เฉพาะกิจ” และ “ชั่วคราว” ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบริหารประเทศในห้วงเวลาเพียง 4 เดือน เทียบกับคำแถลงนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ว่า มีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร ? มีอะไรที่เพิ่มขึ้นมา หรือหายไปบ้าง ?
แถลงนโยบาย 2 นายกฯ คล้ายหรือต่าง ?
“ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด และงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้จัดทำ ทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ภัยด้านเศรษฐกิจ ภัยด้านความมั่นคง ภัยด้านสังคม และภัยด้านสิ่งแวดล้อม
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
(แถลงนโยบายต่อรัฐสภา 29 ก.ย. 2568)
นายกฯ อนุทิน แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยระบุหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
- การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
- ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- ยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ, ด้านความมั่นคง, ด้านสังคม, ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย รวม 15 นโยบาย
แตกต่างจากการแบ่งประเภทของรัฐบาลแพทองธาร ที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ที่กว้างกว่า เช่น นโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลางและยาว การพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพลิกฟื้นความเชื่อมั่น ความท้าทายภูมิรัฐศาสตร์
อย่างไรก็ตาม หากตั้งต้นด้วยนโยบาย 15 ข้อของรัฐบาลอนุทิน จะพบว่า หลายข้อมีความคล้ายคลึงกับคำแถลงนโยบายรัฐบาลแพทองธาร อาจด้วยปัญหาที่ประเทศประสบพบเจอไม่ได้ต่างกันมาก แต่บางนโยบายเป็นนโยบายใหม่ที่ไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อน เช่น พิทักษ์และคุ้มรองศาสนาพุทธและศาสนาอื่น ๆ หรือการระบุว่า ไม่สนับสนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีธุรกิจการพนัน อย่างชัดเจน

แก้รัฐธรรมนูญ
ถือเป็นนโยบายสำคัญที่พูดถึง และมีมาในหลายรัฐบาล เพื่อแก้ไขผลพวงจากคณะรัฐประหาร ปี 2557 ถูกระบุในการแถลงนโยบายทุกครั้งตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา รัฐบาลแพทองธาร เรื่อยมาถึงรัฐบาลอนุทิน แต่ยังแทบไม่มีความคืบหน้า
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
สนับสนุนการจัดทำประชามติ และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและเพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | เร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยยึดโยงกับประชาชนและหลักการของประชาธิปไตย สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล เคารพพหุวัฒนธรรม เพื่อเป็นบันไดสู่การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมีเสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยเร่งที่สำคัญ |
ในการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2568 บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า จะจัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมกับ ประชามติยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา ในวันเลือกตั้ง ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุด
ด้านเศรษฐกิจ 5 นโยบาย
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
1. สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน (เช่น ลดภาระค่าใช้จ่าย โครงการคนละครึ่ง) | มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่าง – ส่วนที่คล้าย เช่น ลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค – ส่วนที่แตกต่าง เช่น ไม่ได้ทำโครงการคนละครึ่ง แต่เป็นผลักดัน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แทน |
2. แก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง บนพื้นฐานความเสี่ยงที่เป็นธรรมระหว่างสถาบันการเงินและผู้กู้ ทั้งหนี้ภาคประชาชนและเพิ่มสภาพคล่องให้ SMEs | หัวข้อ “ผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ” โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ รวมถึง “ดูแลและส่งเสริมพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ของ SMEs” |
3. เพิ่มโอกาสการออมของประชาชนรายย่อย | ระบุว่า “การเพิ่มความรู้ทางการเงินและส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย” |
4. ฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การปราบปรามการฉ้อโกงและการหลอกลวงนักท่องเที่ยว การจัดทำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568 | หัวข้อนโยบาย “เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว” อำนวยความสะดวกให้ผู้ขอวีซ่า และส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ |
5. เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า โดย – จัดตั้งทีมไทยแลนด์ – ดูแลและสนับสนุนผู้ประกอบการ – สร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและเอื้อต่อการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต | คล้ายหัวข้อ “เดินหน้าสานต่อนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว |
ด้านความมั่นคง 2 นโยบาย
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
6. เร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ และจะดำเนินนโยบายต่างประเทศในเชิงรุกที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นใจ และสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศ | ไม่ได้มีการพูดถึงการแก้ไขปัญหากรณีพิพาทไทยและกัมพูชาโดยตรง (เนื่องจากยังไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว) |
7. เร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คู่ขนานไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน | ระบุว่า “สร้างสันติภาพและสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน” แต่ไม่ได้เป็นหัวข้อนโยบายหลัก (อยู่ภายใต้หัวข้อ “เร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”) |
ด้านสังคม 4 นโยบาย
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
8. ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ไม่สนับสนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนัน | มีการพูดถึงว่าประเทศไทยเผชิญปัญหาการพนันออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการระบุนโยบายแก้ไขโดยตรง นอกจากนี้ยังแตกต่างในเรื่องของการสนับสนุนสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) |
9. รักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด | หัวข้อ “ยึดมั่นในหลักนิติธรรมและความโปร่งใส” |
10. ขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง | อยู่ในหัวข้อ “ปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ” โดยระบุว่า ส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะของรัฐ และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน |
11. พิทักษ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยดำเนินมาตรการป้องกันและขจัดการบ่อนทำลายศาสนา | ไม่มีพูดถึงมาตรการป้องกันละขจัดการบ่อนทำลายศาสนา โดยมีการระบุถึงศาสนาเพียง “ส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต” |
ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 นโยบาย
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
12. เร่งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยและพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เยียวยาและฟื้นฟูให้ประชาชนผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน | ไม่ได้ระบุถึงการติดตั้งเครืองมือและพัฒนาเครือข่ายโดยตรง แต่ระบุในหัวข้อ “ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ” ว่า จะสร้างการมีส่วนร่วมในการรับมือภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหา PM2.5 และการบริหารจัดการน้ำที่อาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ |
13. ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ – ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด – พัฒนายกระดับวิถีเกษตรไปสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – จัดตั้งตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่ได้มาตรฐานสากลและผลักดันกฎหยด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว | ระบุคล้ายกันในหลายหัวข้อ เช่น – ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว เช่น สนับสนุนให้ไทยเป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาด – สานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายคาร์บอนเครดิตของอาเซียน |
ด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย 2 นโยบาย
คำแถลงนโยบายอนุทิน | คำแถลงนโยบายแพทองธาร |
14. เร่งรัดการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับการบริหารภาครัฐให้ทันสมัย | หัวข้อ “ปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ” ระบุ “เปลี่ยนผ่านราชการไทยไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล” โดยปรับขนาด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ |
15. เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบ | ลดกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น |
หายไปไหน ? : นโยบายที่มีในคำแถลงของ ‘แพทองธาร’ แต่หายไปในคำแถลงของ ‘อนุทิน’
มีหลายนโยบายที่หายไปจากการแถลงในสมัยรัฐบาลแพทองธาร
แถลงนโยบายแพทองธาร ที่ไม่มีในแถลงนโยบายอนุทิน | หมายเหตุ |
ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ | ไม่ปรากฏในแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน |
เปลี่ยนผ่านสู่การเกณฑ์ทหารสมัครใจ | ไม่สำเร็จในรัฐบาลแพทองธาร และไม่ปรากฏในแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน |
ส่งเสริม Soft Power และ OFOS | นโยบายเรือธงของรัฐบาลแพทองธาร ไม่ปรากฏในแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน |
เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ (Mega Projects) เช่น แลนด์บริดจ์ | แม้ไม่มีแถลง แต่กระบวนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ยังเดินหน้าต่อ รวมถึงเป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย |
ต้องติดตามกันต่อว่า รัฐบาลอนุทิน รัฐบาลเฉพาะกิจชุดนี้ ที่ประกาศจะแก้รัฐธรรมนูญ ดำเนินนโยบาย และยุบสภาฯ จะทำได้จริงอย่างที่แถลงไว้หรือไม่ ?
“ขอนับวันที่ 1 ต.ค. วันแรก นับไป 31 ม.ค. ยุบสภาแน่นอน อันนี้ถือเป็นพันธะระหว่างพรรคที่ลงนาม MOU กับพรรคประชาชน”
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี (การแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 29 ก.ย. 68)