เข้าสู่วันที่ 5 ของมหาอุทกภัยภาคใต้ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังคงวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ซึ่งยังติดอยู่ในพื้นที่รอการอพยพ ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม และร้องขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์สาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ณ วันที่ 26 พ.ย. 2568 เวลา 6:00 น. เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568 ถึงปัจจุบัน โดยมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 จังหวัด (ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา) มีผู้ได้รับผลกระทบรวมกว่า 2.78 ล้านคน
โดยสถานการณ์ในปัจจุบัน ยังคงมีผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ (ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยไม่รวม ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร กระบี่) ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบรวมกว่า 2.73 ล้านคน คิดเป็นกว่า 9.86 แสนครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ขณะที่ข้อมูล ศป.กฉ. เมื่อเวลา 12.10 น. รายงานข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข มีผู้เสียชีวิต 33 คน

จังหวัดที่มีผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ จังหวัดสงขลา จำนวน 836,206 คน รองลงมาคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 637,267 คน และจังหวัดพัทลุง จำนวน 370,878 คน
หากพิจารณาจากสัดส่วนผู้ได้รับผลกระทบเทียบกับประชากรรวม จังหวัดที่มีสัดส่วนสูงสุด คือ จังหวัดพัทลุง ด้วยสัดส่วน 71.56% รองลงมาคือ จังหวัดสงขลา ที่ 58.49% และจังหวัดปัตตานี ที่ 45.39%
จำนวนผู้เสียชีวิต มากที่สุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 6 คน รองลงมาคือ จังหวัดสงขลา จำนวน 5 คน และจังหวัดปัตตานี จำนวน 3 คน
ข้อมูลล่าสุดจากการแถลงข่าวของ ศป.กฉ. เมื่อวันที่ 26 พ.ย. กระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช , พัทลุง , สงขลา , ตรัง, สตูล , ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คน คือ นครศรีธรรมราช 9 ราย , พัทลุง 4 ราย , สงขลา 6 ราย , ตรัง 2 ราย สตูล 2 ราย , ปัตตานี 5 ราย และ ยะลา 5 ราย แบ่งสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ำพัด ไฟฟ้าช็อต ดินถล่ม พลัดตกน้ำ และจมน้ำ
| จังหวัด | ผู้ได้รับผลกระทบ (คน) | จำนวนประชากรรวม (คน) | สัดส่วนผู้ได้รับผลกระทบเทียบกับประชากรรวม (%) | จำนวนผู้เสียชีวิต (คน) |
|---|---|---|---|---|
| พัทลุง | 370,878 | 518,246 | 71.56% | 2 |
| สงขลา | 836,206 | 1,429,663 | 58.49% | 5 |
| ปัตตานี | 337,865 | 744,374 | 45.39% | 3 |
| นครศรีธรรมราช | 637,267 | 1,531,119 | 41.62% | 6 |
| นราธิวาส | 274,546 | 827,736 | 33.17% | – |
| ยะลา | 122,350 | 555,607 | 22.02% | 2 |
| สตูล | 68,410 | 324,600 | 21.08% | – |
| ตรัง | 47,426 | 633,637 | 7.48% | – |
| สุราษฎร์ธานี | 39,370 | 1,076,095 | 3.66% | – |
| รวม | 2,734,318 | 7,641,077 | 35.78% | 18 |
ในรายงานดังกล่าวยังระบุถึงภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่แต่ละจังหวัดในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการดำรงชีพ ด้านการระบายน้ำ ด้านการขนย้ายผู้ประสบภัย เช่น
จังหวัดสงขลา มีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด (836,206 คน) สถานการณ์น้ำท่วมใน 16 อำเภอ 118 ตำบล 909 หมู่บ้าน 252 ชุมชน ปัจจุบันมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น มีการช่วยเหลือในด้านการดำรงชีพ (เช่น ถุงยังชีพ อาหารข้าวกล่อง น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ศูนย์พักพิง) ด้านการขนย้ายผู้ประสบภัย และด้านการระบายน้ำ
จังหวัดพัทลุง มีสัดส่วนผู้ได้รับผลกระทบเทียบกับประชากรรวมมากที่สุด (71.56%) สถานการณ์น้ำท่วมใน 11 อำเภอ 65 ตำบล 670 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ปัจจุบันมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น มีการช่วยเหลือในด้านการดำรงชีพ (เช่น อาหารข้าวกล่อง น้ำดื่ม) ด้านการขนย้ายผู้ประสบภัย และด้านการระบายน้ำ
จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด (6 คน) สถานการณ์น้ำท่วมใน 22 อำเภอ 161 ตำบล 1,483 หมู่บ้าน 134 ชุมชน ปัจจุบันมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น มีการช่วยเหลือในด้านการดำรงชีพ (เช่น ถุงพระราชทาน ศูนย์พักพิงชั่วคราว ถุงยังชัีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยา-เวชภัณฑ์)

