ให้อำนาจ ร.ร. ปิด-เปิด ได้ทันทีตามมาตรการสาธารณสุขแต่ละจังหวัด ปรับเรียนออนไลน์ – DLTV และบทเรียนสำเร็จรูป ประเมินผลยืดหยุ่นได้
วันนี้ (25 ธ.ค. 2563) เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ สพฐ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สรุปรายงานสถานศึกษาที่ปิดการเรียนการสอน เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2563 เวลา 09.00 น. ดังนี้
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 33 เขต รวม 1,020 โรงเรียน
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 12 เขต รวม 315 โรงเรียน
รวมทั้งสิ้น จำนวน 23 จังหวัด 45 เขตพื้นที่การศึกษา 1,335 โรงเรียน
อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีมาตรการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ใช้มาตรการเดียวกันทั่วประเทศ โดยสั่งการให้โรงเรียนในสังกัดพิจารณาจัดการเรียนการสอนยึดหลักความปลอดภัยสูงสุดด้านสุขภาพของนักเรียน โดยโรงเรียนสามารถสั่งหยุดเรียนได้ทันที ยึดตามมาตรการสาธารณสุขของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก
“สพฐ. ให้ทุกโรงเรียนกับเขตพื้นที่ประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัดของแต่ละจังหวัด ยึดคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดว่ามีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือไม่ สมมติว่าจังหวัดบอกว่ายังไม่ระบาดแต่ต้องฆ่าเชื้อ โรงเรียนก็อาจจะหยุด 2-3 วัน เพื่อฆ่าเชื้อ แต่ถ้ากรณีมีผู้ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่แล้วจังหวัดประกาศล็อกดาวน์ หรือเป็นพื้นที่ควบคุม โรงเรียนก็ต้องหยุดตามประกาศของจังหวัด คือหยุดเรียนให้ครบ 14 วัน ก็ว่าไปตามนั้น ให้อำนาจโรงเรียนสามารถสั่งหยุดได้เลย แล้วรายงานการ ปิด-เปิด ให้ทาง สพฐ.ทราบโดยด่วน”
เลขาฯ กพฐ. กล่าวต่อว่า การจัดการเรียนการสอน กรณีหยุด 2-3 วัน สพฐ. ไม่ห่วง เพราะยังสามารถสอนชดเชยในวันเสาร์อาทิตย์ได้ แต่ถ้ากรณีต้องหยุดยาว 14 วัน สพฐ. ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนทางไกล ผ่าน 3 ช่องทาง
1.) เรียนออนไลน์ เน้นในระดับชั้นมัธยมศึกษา และประถมศึกษาบางโรงเรียนที่มีความพร้อม
2. เรียนทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV เน้นที่โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก และประถมศึกษาขนาดใหญ่ที่จัดการเรียนการสอนผ่าน DLTV อยู่แล้ว
3.) เรียนจากบทเรียนสำเร็จรูป สำหรับโรงเรียนที่ไม่สามารถเรียนออนไลน์ หรือ DLTV ได้ ให้ใช้สื่อ 60 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือโรงเรียนจะทำบทเรียนสำเร็จรูปขึ้นมาเองก็ได้
“โรงเรียนหยุด ไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดเรียน วันนี้เราเข้าใจดีว่าความรู้อย่างไรก็ไม่สู้มาเรียนที่โรงเรียน อันนี้เราทราบอยู่แล้ว ดังนั้นการวัดประเมินผลก็ต้องยืดหยุ่นมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะเวลาเรียนไม่ค่อยมีและไม่ได้เรียนที่โรงเรียนโดยตรง แต่สิ่งที่เราห่วงตอนนี้มากที่สุด คือห่วงสุขภาพอนามัยนักเรียน ห่วงการระบาดของโรคก่อนเป็นอันดับ 1”