ชี้ มีเงินสะสมพอจัดซื้อฉีดให้ทุกคนใน กทม. หลายท้องถิ่นประสานเสียง รอแค่ไฟเขียวจากรัฐบาล “อนุทิน” ไม่ขัด แต่ขอหารือ สธ. ก่อน
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2564 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระบุว่า พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 89 กำหนดให้ กทม. มีหน้าที่ในการดำเนินกิจการในเขตพื้นที่ 27 เรื่อง โดยรวมถึงเรื่องการสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการพยาบาล
ปี 2563 กทม. ประมาณการรายได้ไว้ที่ 83,000 ล้านบาท และเมื่อดูจากสถานะการเงินในรายงานของสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2562 กทม. มีเงินสะสมปลอดภาระผูกพันสูงถึง 53,568 ล้านบาท ซึ่งก็คือภาษีที่เก็บมาจากประชาชนที่ยังไม่ได้ใช้
เขาระบุอีกว่า กทม. มีประชากรตามทะเบียนประมาณ 5.6 ล้านคน ถ้ารวมคนที่เข้ามาทำงานด้วยอีกประมาณ 2 ล้านกว่าคน รวมทั้งหมด 8 ล้านคน ถ้าจะฉีดวัคซีนโควิดให้กับทุกคน คนละ 2 โดส ที่ราคา 1,000 บาทต่อคน จะต้องใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่ง กทม. มีเงินสะสมมากพอที่จะรับภาระแทนประชาชนได้ทันที
“การสร้างความมั่นใจด้านสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อปากท้องของประชาชน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะในเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง มีโอกาสระบาดรุนแรง ท้องถิ่นในหลายแห่งเช่น นนทบุรี แหลมฉบัง ได้มีแนวคิดนี้แล้ว กทม. เองน่าจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขได้ทันที เพราะมีความพร้อมมากที่สุด”
หลายท้องถิ่น ประกาศพร้อมซื้อวัคซีน รอเพียงรัฐบาลไฟเขียว
เว็บไซต์ THE BANGKOK INSIGHT รวบรวมข้อมูลว่าขณะนี้มีแล้ว 4 หน่วยงานท้องถิ่น ที่ประกาศความพร้อมในการซื้อวัคซีนให้กับคนในพื้นที่
เทศบาลนครนนทบุรี จ.นนทบุรี โดย สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ประกาศความพร้อมช่วยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเขตเทศบาล ซึ่งมีประชากรประมาณ 2.6 แสนคน จะต้องใช้วัคซีนประมาณ 5.2 แสนโดส (คนละ 2 โดส) หากได้วัคซีนราคาโดสละ 500 บาท คาดว่าใช้เงินประมาณกว่า 260 ล้านบาท โดยขณะนี้ เทศบาลนครนนทบุรีมีงบประมาณสะสมอยู่ 4,000 ล้านบาท
เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดย ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเขตเทศบาล 110,000 คน คาดว่าใช้งบประมาณจัดซื้อวัคซีนคนละ 500-1,000 บาท โดยจะนำเสนอแนวคิดนี้ในที่ประชุมเทศบาลจังหวัด เพื่อขอใช้งบประมาณวงเงินกว่า 100 ล้านบาท
เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี อนุมัติซื้อวัคซีนโควิด-19 จากต่างประเทศ เพื่อฉีดให้คนในพื้นที่จำนวน 80,000 คน โดยใช้งบประมาณของท้องถิ่นจำนวน 80 ล้านบาท
เทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดย ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อนุมัติงบฯ ฉุกเฉิน เตรียมซื้อวัคซีนป้องกันโโควิด-19 จากรัฐบาล เพื่อฉีดให้กับประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่อาศัยในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวนกว่า 40,000 คน เป็นงบประมาณเบื้องต้นจำนวน 40 ล้านบาท
นอกจากนี้ หลายเทศบาลใน จ.ภูเก็ต ก็ประกาศความพร้อมซื้อวัคซีนโควิด-19 เพื่อฉีดให้แก่คนในพื้นที่ รอเพียงไฟเขียวจากรัฐบาล เช่น เทศบาลตำบลราไวย์ เตรียมงบประมาณ 20 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีน เทศบาลนครภูเก็ต ประกาศเตรียมงบประมาณกว่า 45 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.ตลาดเหนือ และ ต.ตลาดใหญ่ รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ก็ประกาศเตรียมงบประมาณกว่า 29 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ อบต.เชิงทะเล
“อนุทิน” ไม่ขัด แต่ขอหารือ สธ. เพื่อจัดหาวัคซีนที่ดีและปลอดภัย
ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ระบุว่ารัฐบาลมีนโยบายในการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนฟรีอยู่แล้ว แต่ถ้า อปท. ต้องการเข้ามาแบ่งเบาภาระตรงนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่จะต้องมาหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดหาวัคซีนที่ดี ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งวัคซีนนั้นต้องผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว และทางกระทรวงฯ ต้องร่วมรับทราบแผน เพราะจะฉีดวัคซีนซ้ำซ้อนไม่ได้