ครบ 1 เดือนไฟไหม้ “เสถียรธรรมสถาน” เก็บเถ้าถ่าน บทเรียนเรื่องสติ และจุดเริ่มต้นการดูแลต้นไม้แบบรุกขกรรม
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2564 เสถียรธรรมสถาน เครือข่ายต้นไม้ในเมือง กลุ่มบิ๊กทรีส์ ร่วมกัน เปิดโครงการ “เสถียรธรรมสถาน อบรมรุกขกร ฟื้นฟูต้นไม้หลังไฟไหม้” เพื่อรักษาฟื้นฟู ต้นไม้ที่ยังหลงเหลืออยู่ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อปลายเดือนธันวาคม ปี 2563 และให้องค์ความรู้ด้านการตัดแต่งต้นไม้ ตามหลักรุกขกรรม ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลต้นไม้อื่น ๆ ให้สวยงามแข็งแรง
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ระบุว่า คนเราเกิดมาพร้อมลมหายใจกับต้นไม้ ต้นไม้จึงร่วมทุกการอยู่ เจ็บ ตาย จาก พราก การมีต้นไม้หนึ่งต้น คือ การมีลมหายใจของมนุษยชาติที่ทุกคนหายใจร่วมกัน สำหรับตนแล้วต้นไม้จึงเป็นเหมือนเพื่อนชีวิต
โดยยกตัวอย่างว่า พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประสูตร ตรัสรู้ ปรินิพพานใต้ต้นไม้ ต้นไม้จึงปลูกหัวใจของพระโพธิสัตว์ การปลูกการดูแลต้นไม้จึงเท่ากับการปลูกชีวิต ปลูกลมหายใจ เสถียรธรรมสถานจึงพยายามสร้างต้นไม้ที่จะสร้างจิตสำนึก ให้กับคนตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อให้เห็นว่าต้นไม้จะเป็นลมหายใจของเราได้อย่างไร
เราพยายามสำรวจต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่ และหาแนวทางการดูแลอย่างถูกวิธี โดยเริ่มเรียนรู้หลักรุกขกรรมกับเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อให้มาดูแลต้นไม้อย่างถูกต้อง ให้เสถียรธรรมสถานเป็นพื้นที่ตัวอย่าง ให้ต้นไม้เป็นครูสอนสังคม บอกเล่าเรื่องราวของคนที่เดินทางเข้ามาที่นี่ ไฟไหม้ครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าจะสูญเสียทรัพย์แต่จะเป็นโอกาสเพิ่มพูนทางจิตวิญญาณ เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี
สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 ได้เผาไหม้เทปบันทึกการสอนศาสนา พระพุทธรูป บาตร รวมถึงไม้จำนวนหนึ่งที่เตรียมไว้ใช้ประโยชน์ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจึงไม่เพียงคิดเป็นมูลค่าทางการเงินแต่อาจทำให้รู้สึกเสียดาย ใจหาย แต่หากมองให้เป็นหลักธรรม เหตุการณ์นี้ก็จะสอนธรรมะแก่ตัวเราได้
เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้สอนเราว่า ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตในชีวิต ให้กอบกู้ใจกลับมา พึงระลึกว่าชีวิตอย่างไรก็ต้องพบกับความสูญเสีย จึงต้องอยู่ในปัจจุบันขณะเสมอ เพลิงที่มอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน ให้เก็บถ่านนี้ไว้บอกตัวเองว่า ต่อไปให้เป็นคนเอาถ่าน… เพลิงไหม้ยังเปรียบเหมือนไฟที่อาจเกิดขึ้นในใจ จากโทสะ โมหะ โลภะ หากเราปล่อยให้มีความโกรธเกิดขึ้นในใจ ก็เหมือนกับเราปล่อยให้ไฟไหม้บ้านตัวเอง เพราะหัวใจเราก็เปรียบเหมือนบ้าน หากรู้ตัวแล้วก็รีบกลับไปที่ใจ กลับไปที่สติ ดับไฟที่ไหม้ในใจ และมูฟออนต่อไปอย่างมีสติ
ด้าน ชนัตฎา ดำเงิน เจ้าหน้าที่รุกขกร ระบุว่า จากการสำรวจพื้นที่เสถียรธรรมสถานเบื้องต้น พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับต้นไม้มีหลากหลาย สำหรับต้นที่โดนไฟ อาจจะมีรอยไหม้ในบริเวณเปลือก แต่ต้องติดตามดูอาการต่อ ส่วนต้นอื่น ๆ พบว่า จำนวนหนึ่งมีการตัดแต่งที่ผิดวิธี ผุ ตาย ใบร่วงผิดปกติ ไม่หนาทึบ แต่ก็สามารถดูแลรักษาได้
หลัก ๆ คือ จะต้องตัดแต่งให้ถูกวิธีก่อน บางต้นอาจจะได้รับความชื้นมากไป ผิดกับความต้องการของชนิดพันธุ์ บางต้นมีส่วนที่ผุจากการเป็นแผลและติดเชื้อ อาจต้องตัดเพื่อป้องกันการรุกลาม หรือส่วนที่ตายแล้วก็ตัดออกได้ บางต้นมีกาฝาก หรือบางต้นอายุมากแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งนี้ จะต้องมีการพิจารณาเป็นรายต้น ซึ่งจะต้องมีการติดตามเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยง โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ของเสถียรธรรมสถานเพื่อให้เป็นผู้ดูแลต้นไม้อย่างถูกต้องต่อไป
สำหรับต้นไม้ที่เสถียรธรรมสถานพบว่ามีหลายต้นอายุมาก คาดว่าตั้งแต่ 100-400 ปี หรือ 4 ช่วงอายุคน แม่ชีศันสนีย์ และทีมงานจึงหวังว่าจะสามารถดูแลรักษาเอาไว้ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวต้นแบบ เป็นโอเอซิสท่ามกลางเมืองใหญ่ เป็นหยดน้ำกลางทะเลเพลิง และเป็นทางรอดของสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่หนาแน่นอยู่ในขณะนี้