ภาคี #Saveบางกลอย เรียกร้องรัฐบาลขอโทษชาวบ้าน ปม “ประสาน” มีท่าทีเหยียดชาติพันธุ์

ระบุชัด การแสดงออกต่อชาวบ้านบางกลอย สะท้อนการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ขาดทักษะผู้นำ ไร้วิสัยทัศน์แก้ปัญหาอย่างจริงใจ ขอรัฐบาลดึงออกจากกลไกแก้ปัญหา หวั่นกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับชาวบ้าน

ภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้กับชาวกะเหรี่ยงบางกลอย และเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวแทนรัฐบาลที่นำโดย ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่บ้านบางกลอย พร้อมทั้งนั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ป่าบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน   

ตัวแทนรัฐบาล และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านบางกลอย (18 มี.ค.64)

แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นจากการลงพื้นที่ดังกล่าว สร้างความกังวลใจให้กับ ภาคี #Saveบางกลอย จนนำไปสู่การออกแถลงการณ์ เมื่อพบว่า ท่าที่ของเขา กำลังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของการแก้ไขปัญหา เพราะการแสดงออกกับชาวบ้าน ถูกมองว่า ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ขาดทักษะการเป็นผู้นำ ไร้วิสัยทัศน์การมองแก้ปัญหาอย่างจริงใจ อีกทั้งยังมีท่าทีเหยียดเชื้อชาติและภาษา

ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ระหว่างพูดคุยกับชาวบ้านบางกลอย

ในแถลงการณ์ ภาคี #Saveบางกลอย ยังยกตัวย่างบทสนทนาบางส่วนที่เขาพูดคุยกับชาวบ้าน เช่น  

“ผมขึ้น ฮ. ไปก็เห็นแล้ว พม่าบ้านพวกคุณ”

“พูดไทยได้กันทุกคนไหม ฟังผมรู้เรื่องไหม”

“ผมอยากมาเป็นกะเหรี่ยงแบบคุณ ผมอิจฉาพวกคุณ ผมอยู่มาจนป่านนี้จะเกษียณมาจนอายุจะ 70 ปี แล้ว ยังมีที่ไม่ถึง 2 ไร่ พวกคุณมีได้ตั้ง 7 ไร่”

“ต่อไปนี้ถ้ามีปัญหาอะไรให้ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ไม่ต้องลงไปกรุงเทพฯ มันเสียเวลาทำงานของพวกผม”

ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ระหว่างพูดคุยกับชาวบ้านบางกลอย

ภาคี #Saveบางกลอย ยังระบุถึงกรณีที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ กล่าวหาว่า ชาวบ้านปลูกกัญชา ที่ใจแผ่นดิน โดยอ้างว่าได้ถ่ายภาพมาเป็นหลักฐานระหว่างที่บินสำรวจ แต่ไม่ยอมแสดงหลักฐานให้กับชาวบ้านได้เห็น ซึ่งชาวบ้านยืนยันข้อเท็จจริงว่า ที่ผ่านมาขึ้นไปถึงได้แค่พื้นที่บางกลอยบน ไม่ใช่ที่ใจแผ่นดิน ดังนั้น การกล่าวหาของเขา จึงถือเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง หากข้อความที่กล่าวเป็นเท็จ อาจมีความผิดอาญา และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง

ในแถลงการณ์ ระบุถึงข้อสังเกตต่อกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านนั้น จะมีประสิทธิภาพและความจริงใจมากน้อยเพียงใด

“นายประสานไม่มีลักษณะการเป็นนักเจรจาที่ดี ไม่ได้ยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งยังกำลังสร้างความขัดแย้ง ขุ่นเคืองใจมากกว่าจะรับฟัง เพื่อนำไปสู่การหาทางออก ที่ชาวบ้านเรียกร้องมาโดยตลอด คือต้องหาแนวทาง หรือนโยบายพาชาวบางกลอยกลับใจแผ่นดิน”

ชาวบ้านบางกลอย

ภาคี #Saveบางกลอย  จึงเรียกร้องไปยังรัฐบาล ไม่ควรให้นายประสาน อยู่ในกลไกการแก้ไขปัญหา เนื่องจากทำตัวเป็นคู่ขัดแย้ง และใช้อคติไม่รับฟังเหตุผลอย่างเปิดใจ

พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาล แสดงความรับผิดชอบ ชี้แจงกรณีดังกล่าว รวมถึงขอโทษชาวกะเหรี่ยงบางกลอยอย่างเป็นทางการ จากกรณีการเหยียดหยามชาติพันธุ์ และสร้างบาดแผลในจิตใจด้วยความรุนแรงทางกิริยา และวาจา เพราะในฐานะของผู้ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา เรื่องราวเหล่านี้จึงไม่ควรเกิดขึ้น


Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active