ระบุ เป็นการสนับสนุนให้ทหารเมียนมาอยู่บนแผ่นดินของ KNU นานขึ้น สำนักข่าวชายขอบ เปิดเบื้องหลัง “บิ๊กทหารฝั่งไทย” กลัวข่าวรั่ว เร่งขนข้าว 700 กระสอบ กองริมแม่น้ำสาละวิน
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ออกแถลงการณ์ (21 มี.ค. 2564) คัดค้านความพยายามใด ๆ ที่จะจัดส่งเสบียงให้แก่ทหารเมียนมาที่ตั้งถิ่นฐานบนดินแดนของบรรพชนกะเหรี่ยง หลังมีการเผยแพร่ภาพข้าวสาร 700 กระสอบ และยุทธปัจจัยอื่น ๆ เช่น น้ำมัน วางกองอยู่ที่ท่าเรือแม่สามแลบริมแม่น้ำสาละวิน ชายแดนไทย-รัฐกะเหรี่ยง อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยระบุเหตุผลว่า ที่ผ่านมาทหารเมียนมาได้ทำลายและลงโทษชาวกะเหรี่ยงโดยไม่ได้รับการลงโทษใด ๆ จากอาชญากรรมนั้น และขณะนี้ทหารเมียนมากำลังเข่นฆ่าประชาชนชาวเมียนมาที่ออกมาต่อต้านรัฐประหาร
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า KNU ไม่ยอมรับว่ากองทัพเมียนมาเป็นหน่วยงานตามกฎหมาย ขณะที่ประชาชนชาวเมียนมาและประชาคมนานาชาติก็ไม่ยอมรับเผด็จการทหารเมียนมาเช่นกัน ซึ่งกลุ่มหรือบุคคลใดก็ตามที่พยายามจัดส่งเสบียงให้กองทัพเมียนมา ก็จะถูกมองว่าสนับสนุนให้ทหารเมียนมาอยู่บนแผ่นดินของ KNU นานขึ้น และนำไปสู่การสังหารโหดชาวกะเหรี่ยง โดยขณะนี้ข้าวสาร 700 กระสอบและยุทธปัจจัยดังกล่าว ก็ยังคงถูกวางกองไว้ที่เดิม
ขณะที่เฟซบุ๊ก Paskorn Jumlongrach จากสำนักข่าวชายขอบ โพสต์ข้อความเปิดเบื้องหลังกองข้าวสารนี้ ระบุว่า เริ่มจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ได้ประสานไปยังกองกำลังกะเหรี่ยง KNU เพื่อขออนุญาตผ่านพื้นที่ซึ่งเป็นเขตดูแลของทหารกองพล 5 KNU เพื่อส่งเสบียงให้ฐานของทหารเมียนมากว่า 14 แห่งริมแม่น้ำสาละวินในเขตอิทธิพลของ KNU
แต่หลังจากทหารเมียนมาทำรัฐประหาร KNU ก็ประกาศเปิดรับดูแลคนที่หนีภัยจากทหารเมียนมา ขณะเดียวกันปิดเส้นทางลำเลียงเสบียงของทหารเมียนมาทั้งหมด เพราะ KNU ต้องการบีบให้ทหารเมียนมาถอนออกจากพื้นที่ริมแม่น้ำสาละวิน ซึ่งการปิดเส้นทางลำเลียงจะทำให้ทหารเมียนมาเดือดร้อนหนัก
เมื่อมีการประสานจากทางฝั่งไทยขอเปิดพื้นที่บนลำน้ำสาละวินเพื่อให้เรือเสบียงแล่นผ่าน พร้อมยื่นคำขาดว่า ถ้า KNU ไม่ยอมให้ผ่าน ไทยก็ไม่ยอมให้เสบียงของ KNU ผ่านแดนไทยเช่นกัน ทำให้ KNU จึงรอมชอมและขอเวลาเคลียร์พื้นที่ 1 วัน คือวันที่ 20 มี.ค. 2564 เนื่องจากขณะนั้นทหาร KNU ได้รุกคืบประชิดฐานทหารเมียนมาริมสาละวินแล้วแทบทุกแห่ง ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงจะขนเสบียงได้ในวันที่ 21 มี.ค. 2564
เนื่องจากความใจร้อนของ “บิ๊ก” ทหารฝั่งไทย ที่กลัวข่าวการขนเสบียงรั่ว จึงมีคำสั่งเร่งด่วนให้เร่งขนเสบียงมากองไว้ตั้งแต่ 7 โมงเช้าของวันที่ 20 มี.ค. 2564 แต่ไม่มีเรือของชาวบ้านลำไหนกล้าที่จะขนข้ามฟากไปยังฐานเมียนมา เพราะยังไม่มีไฟเขียวจาก KNU และในที่สุดก็กลายเป็นข่าวในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ภาสกร ระบุด้วยว่า ต้องจับตาว่าจะมีการดำเนินการต่อกองข้าวสารเหล่านี้อย่างไร หลังมีเสียงปฏิเสธทั้งจากกองทัพภาคที่ 3 และเสียงปฏิเสธจากกองกำลังนเรศวร ว่าไม่มีส่วนสนับสนุนการส่งเสบียงให้ทหารเมียนมา ขณะที่ขณะนี้ KNU ก็ส่งเรือลาดตระเวนหลายลำเฝ้าสังเกตการณ์ พร้อมกับออกแถลงการณ์คัดค้านการส่งเสบียงให้ทหารเมียนมาดังกล่าว
