ชี้ ประท้วงอดอาหารจนตาย จะไม่เปลี่ยนแปลงระบบยุติธรรมไทยได้ทันทีทันใด ขอบิณฑบาตชีวิต เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงเมื่อฟ้าหลังฝน
วันที่ (17 เม.ย. 2564) พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี กล่าวถึงกรณีการอดอาหารของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง เพื่อประท้วงต่อระบบยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ให้สิทธิในการประกันตัวออกมาสู้คดีที่ถูกกล่าวหาว่าผิดมาตรา 112 ว่า อาตมาขอบิณฑบาตชีวิตคุณเพนกวินและรุ้ง เลิกอดอาหาร เพื่อมีชีวิตไว้ดูการเปลี่ยนแปลง เมื่อฟ้าหลังฝน
“ถ้าเกิดเสียชีวิตไปเสียตอนนี้ ถึงแม้ว่าคุณแม่ของเพนกวินเอง จะเห็นด้วยในอุดมการณ์ของลูก แต่เชื่อว่าหัวใจของคนเป็นแม่นั้น ลึก ๆ แล้ว คงไม่อยากให้ลูกจากไปตอนนี้แน่นอน”
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มองว่าที่ผ่านมาการอดอาหารประท้วงของเพนกวินและรุ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเพนกวินที่อดอาหารต่อเนื่องเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้วนั้น ถึงวันนี้นับว่าไม่ได้เสียเปล่า การเลิกอดอาหารก็ไม่ได้เสียอุดมการณ์ เพราะได้สะท้อนให้เห็นปัญหาของระบบยุติธรรมไทยได้มากแล้ว จึงไม่อยากให้คิดแต่เรื่องสู้ ๆ เท่านั้น แต่อยากให้มองเรื่องสร้าง ๆ ด้วย ควรจะสู้ไปสร้างไป โดยจะขอบิณฑบาตชีวิต ขอให้ทั้งสองคนกลับมากินอาหารเพื่อให้สมองสามารถคิดอ่านและสู้ไปสร้างไป อยากให้ทั้งสองคนมีชีวิตอยู่ เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“สมมตินะ…ถึงคุณจะตายไป อาตมาเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ก็คงจะไม่ได้รุ่งโรจน์โชติช่วง เพราะกระบวนการยุติธรรมก็ยังมีกิเลส ยังมีอะไรที่เขาก็กลัว ๆ อะไรของเขา…เพราะฉะนั้นก็ต้องถนอมชีวิตไว้ ทั้งเพนกวินและรุ้ง ต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นด้วยตัวเอง”