นายกฯ เร่งประชุมคณะทำงานจัดหาวัคซีน ได้ข้อสรุป จัดหาเพิ่ม รวม 35 ล้านโดส ‘ปลัด สธ.’ ย้ำ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ต้องได้ฉีดวัคซีน 100% ภายใน 25 เม.ย.
จับตาความคืบหน้าสถานการณ์วัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย หลังมีการตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลที่ล่าช้า และส่งผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประชาชนที่จะมีความยากลำบากมากขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องปรับแผนการบริหารจัดการวัคซีนจากเดิม ทั้งเริ่มมีการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพื่อให้มีวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอ และยี่ห้อของวัคซีนที่ก็เริ่มมีการเจรจากับบริษัทเอกชนรายอื่นนอกจาก Sinovac และ AstraZeneca
นายกฯ เร่งประชุมคณะทำงานจัดหาวัคซีน ได้ข้อสรุปจัดหาเพิ่ม 2-3 ยี่ห้อ จำนวน 35 ล้านโดส
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ย. 2564) ระบุว่า คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งประกอบด้วย คณะแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน นำโดย นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร
จากการหารือทุกฝ่าย ได้ข้อยุติว่า ประเทศไทยจะจัดหาวัคซีนอีก 2-3 ยี่ห้อเพิ่มเติมอีกประมาณ 35 ล้านโดส นอกเหนือจากที่ดำเนินการไว้แล้วประมาณ 65 ล้านโดส โดยในจำนวน 35 ล้านโดส ภาคเอกชนนำโดยสภาหอการค้าไทยก็จะช่วยรัฐบาลจัดหาให้กับพนักงานลูกจ้างเองด้วย ประมาณ 10-15 ล้านโดส ซึ่งก็จะช่วยลดงบประมาณของรัฐบาลลงไปอีก
“สำหรับกระบวนการต่อไปให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการโดยเร่งด่วนและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ผมได้สั่งการให้วางแผนการกระจายและฉีดวัคซีนที่จัดหามาทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายใน ธันวาคม 2564 นี้”
ปลัด สธ. ย้ำ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ต้องได้ฉีดวัคซีน 100% ภายใน 25 เม.ย. นี้
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ย.) ย้ำว่า บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าต้องได้รับวัคซีน 100% โดยวันนี้จะกระจายวัคซีนซิโนแวคล็อต 1 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าประมาณ 6 แสนโดส หรือประมาณ 3 แสนคน เร่งรัดการฉีดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 เม.ย. นี้ จะทำให้การฉีดวัคซีนภาพรวมของประเทศไทยเกิน 1 ล้านโดสภายในสัปดาห์นี้
รวมทั้งให้เร่งการฉีดวัคซีนทั้งเข็มแรกและเข็มที่สองในกลุ่มเสี่ยงในทุกจังหวัดด้วยเช่นกัน หากทำได้อย่างรวดเร็วจะส่งวัคซีนลงไปสนับสนุนเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีวัคซีนที่จะเข้ามาอีก 5 แสนโดสในวันที่ 24 เม.ย. นี้ และกำลังเจรจานำเข้ามาอีก 1 ล้านโดส จากนั้นจะเป็นการฉีดวัคซีนล็อตของแอสตราเซเนกาต่อไป
วัคซีนพาสปอร์ต ไทย มีผลบังคับใช้แล้ว
ด้าน รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเช้า (21 เม.ย.) ระบุว่า วัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) มีผลบังคับใช้แล้ว โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้จัดทำวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นหนังสือรับรองบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระบุชื่อ และข้อมูลส่วนบุคคล เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อใช้เดินทางต่างประเทศ
โดยมีเงื่อนไข คือ เอกสารรับรองนี้จะออกให้เฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในไทย หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และจะต้องมีลายมือชื่อของอธิบดีกรมควบคุมโรคหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ออกเอกสารรับรอง พร้อมประทับตรา ซึ่งเอกสารรับรองนี้จะรับรองเป็นรายบุคคลเท่านั้น
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค มอบหมายให้ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร หรือ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เป็นผู้ที่มีอำนาจออกหนังสือรับรอง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สังกัดกรมควบคุมโรค 6 ราย เป็นผู้ที่มีอำนาจออกหนังสือรับรอง