สั่งเร่งสำรวจจำนวนครู จัดลำดับความสำคัญเน้นฉีดวัคซีนครูในพื้นที่เสี่ยงสูงก่อน ยืนยันไม่บังคับ ให้เป็นตามความสมัครใจ
วันนี้(28 เม.ย.64) ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ถ้าหากครูและบุคลากรทางการศึกษาติดเชื้ออาจจะกลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่ส่งผ่านเชื้อไปยังผู้อื่นได้เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ขึ้นมาได้
เบื้องต้นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น จะจัดลำดับความสำคัญให้กับครูและบุคลากรที่อยู่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง และมีความเสี่ยงสูงก่อน แต่การฉีดวัคซีน ก็ต้องให้เป็นไปตามความสมัครใจของครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้บังคับ
รมว.กระทรวงศึกษาธิการ บอกด้วยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำรวจจำนวนครูและบุคลากรในแต่ละจังหวัด โดยจำแนกตามพื้นที่ที่มีความเสี่ยงตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปหารือกับ ศบค.ต่อไป
สำหรับกรณีที่มีผู้เสนอให้ทบทวนนโยบายครูเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อความปลอดภัยของทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง นั้น รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า การเยี่ยมนักเรียนของครู สามารถทำได้หลายวิธี ครูไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ไปที่บ้านนักเรียน แต่อาจใช้การโทรศัพท์ สื่อสารผ่านทางออนไลน์ หรือวิธีอื่น ๆ ที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อพูดคุยสอบถามสร้างความอบอุ่นใจให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ และการดูแลตนเอง ในช่วงที่ไม่ได้มาโรงเรียน