22 ชาวบางกลอย รอดคุก! ศาลเพชรบุรี สั่งปล่อยตัว เหตุ ตร.-อัยการส่งฟ้องไม่ทัน

รอพบอัยการใหม่ 29 ก.ค.นี้ ชาวบ้านขอบคุณทุกฝ่ายช่วยเหลือทางคดี ย้ำไม่ท้าทายอำนาจกฎหมาย ยืนยันแค่อยากกลับที่ทำกินเดิม ไม่ควรมีใครต้องติดคุก ทนายความ ระบุ อัยการต้องสอบพยานฝั่งชาวบ้านเพิ่มอีก 7 คน ตามข้อเรียกร้องขอความเป็นธรรม

วันนี้ (28 พ.ค.64) ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 28 คน ประกอบด้วยผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ผ่านมา 22 คน และชาวบ้านที่รับทราบข้อกล่าวหาหลังจากนั้นอีก 6 คน เดินทางไปยังศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อรับทราบผลว่าอัยการจะส่งสำนวนฟ้องต่อศาลทันหรือไม่ ตามกำหนดฝากขังของชาวบ้านกลุ่มแรก 22 คนแรก ผลสรุปคือพนักงานสอบสวนและอัยการ ไม่สามารถส่งสำนวนฟ้องต่อศาลได้ทัน ศาลจึงปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ก่อนนัดพบอัยการอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ค.นี้


สำหรับชาวบ้านบางกลอยทั้ง 22 คนนั้นมี 1 คนเป็นเยาวชน จึงต้องเข้าสู่กระบวนการของศาลเยาวชนต่อไป ส่วนชาวบ้านกลุ่ม 6 คน ที่รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมครบแล้วในวันนี้ ยังไม่ครบกำหนดฝากขัง จึงไม่มีการดำเนินการในชั้นอัยการวันนี้


หน่อแอะ มีมิ ชาวบ้านบางกลอย หนึ่งในผู้ต้องหา 22 คน ขอบคุณหลายฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งคนเพชรบุรี ทีมทนายความ รวมถึงรัฐบาล ซึ่งตนยืนยันว่า การกลับไปที่บางกลอยบนไม่ใช่ความผิด และไม่ควรต้องถูกดำเนินคดีหรือติดคุก

หน่อแอะ มีมิ ชาวบ้านบางกลอย

“เรายืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ควรต้องติดคุก ถ้าถอนคดีได้ก็อยากให้ถอน แล้วปัญหาของเราไม่มีอะไรมากเลย เราแค่อยากจะกลับไปอยู่ในที่ทำกินเดิม เราไม่ได้ท้าทายอำนาจของใครหรือท้าทายกฎหมายของใคร เราเพียงต้องการกลับไปอยู่ในพื้นที่เดิมที่เราอยู่มาก่อนเท่านั้น”



ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า ทนายความและชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึงอัยการจังหวัดเพชรบุรี และอัยการสูงสุดเพื่อขอความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งตามระเบียบและกฎหมายนั้น เมื่อผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม โดยเฉพาะร้องขอให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนใหญ่อัยการจะมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมก่อนที่จะมีคำสั่งว่าจะส่งฟ้องหรือไม่

“อัยการให้ความสะดวกเนื่องจากเป็นสถานการณ์โควิด-19 และน่าจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มแน่นอน อัยการเลยนัดวันที่ 29 ก.ค.นี้ เพื่อให้มารับทราบว่าอัยการจะส่งฟ้องทันหรือไม่ และวันนี้ชาวบ้าน รวมถึงทนายความ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมสำหรับผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้มารับทราบข้อหาเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้วด้วย ดังนั้นทั้ง 28 คน ก็ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมจากพนักงานอัยการเพิ่ม โดยเฉพาะสอบสวนนักวิชาการ ตอนนี้เราเสนอรายชื่อไป 7 ท่าน”



ขณะที่รายชื่อนักวิชาการทั้ง 7 คนที่พนักงานสอบสวนต้องสอบปากคำเพิ่มตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้น ประกอบด้วย

1. เตือนใจ ดีเทศน์ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

2. ดร.สมศักดิ์ สุขวงศ์ ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้อำนวยการบริการบริหาร ศูนย์วนศาสตร์ชุมชน (RECOFTC)

3. ดร.กฤษฎา บุญชัย สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา

4. สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม

5. สุนี ไชยรส อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

6. รศ.ดร.นฤมล อรุโณทัย ผู้อำนวยการสภาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

7. ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



พชร คำชำนาญ ภาคี #SAVEบางกลอย เห็นว่า การเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมาเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี จนถึงวันนี้ก็ทำให้เบาใจไปได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นชัดเจนว่าระดับนโยบาย และเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่ ยังมีแนวทางปฏิบัติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน นโยบายเปิดให้แก้ปัญหา แต่ในพื้นที่ยังคงดำเนินการกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง


“เราเห็นความพยายามแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล และฝ่ายการเมืองหลายครั้งในช่วง 4-5 เดือนของการเคลื่อนไหวเพื่อพาชาวบางกลอยกลับบ้าน แต่หน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังไม่รับลูก กรมอุทยานฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ เองก็ดูจะลอยตัว เลยทำให้ปัญหาไม่เคยถูกแก้ เป็นเพียงการชะลอ และชาวบ้านก็ยังต้องหวาดระแวงว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกในอนาคตหรือไม่ ซึ่งความขัดแย้ง ย้อนแย้งกันของรัฐบาลและหน่วยงานแบบนี้จะไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเลย”



ข่าวที่เกี่ยวข้อง : #Saveบางกลอย บุกทำเนียบฯ พบ “ธรรมนัส” ยื่นข้อเรียกร้องสั่งชะลอคดี

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active