หลังหายตัวไปตั้งแต่ 4 มิ.ย. 63 ชี้ คดียังเงียบ ด้าน “สุรพงษ์ กองจันทึก” เผย ยกร่าง พ.ร.บ.อุ้มหาย มีความคืบหน้า เร่ง รัฐบาลบรรจุเป็นวาระเข้าสู่การพิจารณาในสภาต่อ
2 มิ.ย. 2564 – ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทย และผู้ลี้ภัยในประเทศกัมพูชา ที่ปรากฏหลักฐาน คาดว่าหายตัวไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 จากหน้าที่พักในกรุงพนมเปญ เดินทางเข้ายื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้า ต่อ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการอุ้มหายผู้ลี้ภัยทางการเมือง
โดยเดินทางเข้ายื่นหนังสือ พร้อมครอบครัวผู้ลี้ภัยทางการเมือง และ สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
สิตานัน กล่าวว่า วันที่ 4 มิ.ย. นี้ จะเป็นวันครบรอบ 1 ปี การหายไปของ วันเฉลิม แต่ยังไม่มีความคืบหน้า การเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ เพราะคาดหวังว่า DSI หรือรัฐจะมีคำตอบที่ชัดเจน
“เราอยากทำเรื่องของเราให้ชัดเจนที่สุด จากการหายไปของวันเฉลิม สามารถบอกได้ว่าเขาหายไปที่กัมพูชาจริง DSI ช่วยทำคดีนี้อย่างเร่งด่วน จากที่ฟังคำอธิบายของอธิบดีสอบสวนพิเศษ เราก็อยากจะให้เวลาท่านทำงาน ดูว่าสิ่งที่ท่านพูดจะเป็นจริงหรือไม่ อย่างที่รับปากเอาไว้”
ขณะที่กรณีของ สยาม ธีรวุฒิ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทย และผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศเวียดนาม ที่หายตัวไปหลังมีรายงานข่าวว่าถูกจับกุมที่เวียดนามเพื่อส่งตัวกลับประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน โดย สรัญญา ธีรวุฒิ น้องสาวของ สยาม ระบุว่า มีการยื่นเรื่องมาถึงสองปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน และยังไม่มีหลักฐานว่าน้องชายของเธอ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จึงอยากขอให้ DSI ช่วยดำเนินการเช่นกัน
ด้าน พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) ระบุว่า จะต้องมีการพิจารณาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน ว่าเหตุเกิดในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งหากเกิดในต่างประเทศ พนักงานอัยการจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน แต่หากเกิดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ของไทยเองก็สามารถที่จะดำเนินการได้ทันที แต่ขณะนี้ต้องรอการยืนยันให้ชัดเจนว่าเป็นกรณีใด
“ขณะนี้มีการเร่งรัดคณะทำงาน เนื่องจากกระบวนการสอบสวนกรณีของวันเฉลิมที่หายตัวไป ถ้าหากเหตุเกิดขึ้นที่ต่างประเทศอัยการสูงสุดจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ขณะเดียวกัน กรณี สยาม ธีรวุฒิ ที่อ้างว่ามีการหายตัวไปหลายปีแล้ว ขณะนี้ก็เร่งให้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการต่อ”
เมื่อถามถึง หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในกัมพูชา กรณีของวันเฉลิม ว่าสามารถนำมาพิจารณาและดำเนินการต่อได้หรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องที่ทางการกัมพูชาจะต้องสอบสวนเบื้องต้น เนื่องจากเกิดเหตุที่นั่น ซึ่งขณะนี้เอง ก็ยังไม่มีความคืบหน้าจากทางการกัมพูชา
ด้าน สุรพงษ์ กองจันทึก กล่าวว่า ปัจจุบัน มีการยกร่าง พ.ร.บ.พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก จากการร่างโดย ส.ส. และพรรคการเมือง อีกส่วนคือ การร่างผ่านทางรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐบาลเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอบรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาในสภาต่อไป
“เราหวังว่ารัฐจะเร่งดำเนินการพิจารณา พ.ร.บ.พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยเร็ว และเป็นไปตามหลักการที่จะคุ้มครองประชาชนที่ถูกซ้อมทรมานและบังคับให้เป็นบุคคลสูญหาย ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐ”
ขณะที่ช่วงบ่ายของวันนี้ ญาติและทนายความ จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด ที่สำนักอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
