“กลุ่มหมอไม่ทน” นัดแสดงพลัง 7 ก.ค. “ติดโบว์ดำ สวมเสื้อดำ” ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 กว่า 2,200 คน พร้อมยื่นรายชื่อจาก change.org ต่อ “ผอ. ศบค.” เร่งนำเข้าวัคซีน mRNA ด่วนที่สุด
วันนี้ (6 ก.ค. 2564) เฟซบุ๊ก We, The People ได้โพสต์แถลงการณ์ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “หมอไม่ทน” เรื่อง ร่วมแสดงพลัง ติดโบดำ สวมเสื้อดำทั้งประเทศ วันพุธที่ 7 ก.ค. 2564 โดยระบุว่า จากเหตุการณ์เอกสารการประชุมเฉพาะกิจร่วมระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค คณะทํางานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน ซึ่งเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ในมติไม่ได้มีพูดถึงการฉีดวัคซีน Pfizer เพื่อเป็นการกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้า แม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วแต่ยังมีการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชนส่วนมาก ยังไม่ได้รับวัคซีนเเม้แต่เข็มแรก
หมอไม่ทน จึงขอเชิญชวนทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมสวมเสื้อดำ/ติดโบว์ดำ ในวันพุธที่ 7 กรกฏาคม 2564 เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และยื่นข้อเรียกร้องต่อนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค. ดังนี้
1. นำเข้าวัคซีน mRNA ให้ได้เร็วที่สุด เเละนำมาใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันการระบาด โดยจะต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบ
2. นำวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องการฉีดทุกท่าน
3. เปิดเผยสัญญาการสั่งซื้อวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac รวมถึงวัคซีนอื่น ๆ ที่ทางรัฐบาลไทยจะทำสัญญาในอนาคต เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส และพิสูจน์ให้ประชาชนได้ทราบว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการระบาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน
4. เปิดเผยบันทึกการประชุมในการประชุมเรื่องวัคซีนและการบริหารจัดการการระบาด COVID-19 เป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะทั้งหมด
5. COVID-19 สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศ การสวม N95 จึงไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อ รัฐจำเป็นต้องจัดหา FFP3 หรือ N99 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์
“ทุกนาทีที่ล่าช้า คือชีวิตของประชาชน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน พวกเราในฐานะบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกำลังจับตาดูการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด”
ในแถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก We, The People ได้โพสต์เชิญชวนชาวเชียงใหม่ ร่วมใส่ชุดดำหรือติดโบว์ดำ ยืนไว้อาลัย ณ ลานสามกษัตริย์ เป็นเวลา 23 นาที เพื่อไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากโรค COVID-19 โดยระบุว่า
– เป็นผลจากการบริหารงานและจัดซื้อวัคซีนผิดพลาดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และ ศบค. ซึ่งขณะนี้มีจำนวนรวมถึง 2,239 คน
– ให้กำลังใจกลุ่มหมอไม่ทนและภาคีบุคลากรสาธารณสุขที่นำหนังสือไปยื่นแก่ ศบค. ในช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.ค. 2564 เพื่อเรียกร้องให้แผนการจัดหาวัคซีนของ ศบค. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นๆ
– ไว้อาลัยแก่ “พอส กรสิทธิ์ ราวพันธ์” อาสาสมัครกู้ภัยวัย 19 ปี ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานหมิงตี้เคมิคอล จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค. 2564 และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. และรัฐบาลประยุทธ์ต้องรับผิดชอบต่อการแก้กฎหมายยกเลิกการต่อใบอนุญาตโรงงานที่เป็นอันตรายที่เคยต้องทำใหม่ทุกปี ทำให้ไม่มีการตรวจสอบโรงงานอย่างเหมาะสม รวมทั้งรัฐบาลต้องผ่านร่างกฎหมายการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (PRTR) ทันที – ไว้อาลัยแก่ความเป็นคนที่หายไปของเจ้าหน้าที่รัฐบาลและทหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ยอมอนุญาตให้ย้ายคนงานในแคมป์ใกล้จุดระเบิดและไฟไหม้โรงงานออกจากรัศมีอันตราย