หลัง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดประเด็นเรื่องวัคซีนเอาไว้ ทำให้เป็นประเด็นที่พรรคก้าวไกลจะต้องนำมาอภิปรายต่อในสภาผู้แทนราษฎร ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ กับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และจะต้องพุ่งเป้าไปที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย
เพราะต้องยอมรับว่า แผนการจัดซื้อวัคซีน ที่ขยับมาต่อเนื่องจากเดิมที่วางไว้เดือนมิถุนายน เลื่อนมาหลังจากที่เพื่อนบ้านในอาเซียนเริ่มทยอยฉีด และถือว่าเป็นประเด็นที่ถูกจุดติดโดย “นายธนาธร” สร้างแรงกดดันทางการเมืองให้กับรัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนเร็วเพราะ “หากวัคซีนเข้ามาได้เร็วมากเท่าไร นั่นหมายถึงว่าเศรษฐกิจก็จะยิ่งฟื้นตัวเร็วเท่านั้น”
อ้างอิงจาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก บอกว่าแค่เอาวัคซีนให้จังหวัดภูเก็ตจังหวัดเดียว ก็สร้างความเชื่อมั่นได้แล้ว โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีมากถึง 4 แสนล้านบาท มากกว่าค่าวัคซีนถึง 10 เท่า และค่าวัคซีนทั่วประเทศยังไม่เท่ากับรายได้ที่จังหวัดภูเก็ต เพราะฉะนั้น หากนำวัคซีนมาฉีดที่จังหวัดภูเก็ตเพียงจังหวัดเดียวแล้วเปิดให้มีการท่องเที่ยว ก็อาจจะช่วยให้รายได้เข้ามาอาจไม่ถึง 4 แสนล้านบาท เพียงแค่ 1 แสนล้านบาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากพอ แม้รายได้จะไม่ได้มาแบบฉับพลันทันใดแต่ยิ่งทำเร็ว ก็ยิ่งฟื้นตัวเร็ว
การหาจุดสมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจจะเป็นสิ่งที่ถูกอภิปรายอย่างหนักในสภาอย่างแน่นอน
สรกล อดุลยานนท์ หรือ คอลัมนิสต์นามปากกาชื่อคุ้นเคย “หนุ่มเมืองจันท์” วิเคราะห์ประเด็นวัคซีนโควิด-19 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไว้ในรายการ Active Talk EP.1 “ซักฟอก | ม็อบ | ทักษิณ | Clubhouse” (15 ก.พ. 2564)