กรมอุตุฯ คาดการณ์วันที่ 10 – 12 ธ.ค. 2565 ภาคใต้ยังเสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก หวั่นซ้ำเติมพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และมีโอกาสเกิดน้ำท่วมหลากเพิ่มอีกหลายจังหวัด ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ชี้ปัจจัยซ้ำเติมจากปรากฏการณ์ลานีญา ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนมีความเข้มข้นสูง บางพื้นที่ฝนอาจตกหนักเกินกว่า 100 มิลลิเมตร
วันนี้ (10 ธ.ค.2565) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 15 อำเภอ 67 ตำบล 263 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 11,128 ครัวเรือน หลังสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ในระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.นี้ จึงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง
- พัทลุง น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอควนขนุน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 40 ครัวเรือน 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,965 ครัวเรือน
- สงขลา น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาหม่อม อำภอบางกล่ำ อำเภอจะนะ อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอนาทวี รวม 17 ตำบล 55 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,988 ครัวเรือน
- ปัตตานี น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอยะหริ่ง อำเภอปานเระ และอำเภอมายอ
รวม 22 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,202 ครัวเรือน - ยะลา น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอยะหา รวม 10 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 312 ครัวเรือน
- นราธิวาส น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบาเจาะ อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอระแงะ รวม 17 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,586 ครัวเรือน
ส่วนที่ จ.ตรัง ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาพบว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่น้ำตกโตนตก และน้ำตกโตนเต๊ะ อำเภอปะเหลียน จ.ตรัง ที่ไหลลงสู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว หลังฝนตกสะสม ยังสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาน้ำป่าไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ทำให้สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดตรัง เร่งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดแนวเทือกเขาบรรทัด และในพื้นที่ลุ่มต่ำ
ที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งเกิดฝนตกต่อเนื่อง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้แม่น้ำสายบุรี มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอในปัตตานี และทางจังหวัดได้สั่งให้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว
ที่จังหวัดสงขลา สถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ จากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ พบว่า บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หลังฝนหยุดตก เหลือเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำในบางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่นลมในทะเลที่ยังรุนแรง ทำให้ประมงพื้นบ้านในตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา ยังจอดหลบคลื่นลม เช่นเดียวกับ ท่าเทียบเรือบ้านท่าแพ ตำบลปากพูน เรือประมงพาณิชย์ เข้าจอดเทียบฝั่งเช่นกัน เพราะในทะเลยังมีคลื่นลมแปรปรวน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเตรียมบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า เพื่อรองรับสถานการณ์ ทั้งการเร่งระบายน้ำ และพร่องน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบและซ่อมแซมตามแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
รวมไปถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือประจำจุดเสี่ยงภัยให้เพียงพอ เพื่อให้ทันต่อการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ที่มีฝนตกหนักมาก ในบริเวณจังหวัดสงขลา นราธิวาส และปัตตานี
ขณะที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า ปีนี้ไทยยังอยู่ในปรากฏการณ์ลานีญา แม้ภาคใต้จะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ปริมาณฝนจะมีความเข้มข้นสูง บางพื้นที่จะมีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตร ซึ่งจะท่วมฉับพลันแบบทันทีทันใด จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ให้ที่ลาดเชิงเขา ริมแม่น้ำสังเกตปริมาณน้ำและสีของน้ำต่อเนื่อง และยกของขึ้นที่สูงเกินกว่า 50 เซนติเมตร หรือ 1 เมตร เทียบตามลักษณะเชิงพื้นที่ เพื่อลดความเสียหาย
และเตือนภาคใต้ เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ แม่น้ำชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่าภาคใต้ที่จะมีความเสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันนี้ (10 ธ.ค.65) ได้แก่นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล หลังจากนั้นแนวโน้มฝนจะยังเพิ่มขึ้นไปอีก 1-2วัน เสี่ยงฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
โดยในช่วงวันที่ 10 – 12 ธ.ค. 2565 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 12 – 15 ธ.ค. 2565 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ส่วนช่วงวันที่ 12-15 ธ.ค.นี้ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานคร มีหมอกบางในตอนเช้าโดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง โดย 1-2 วันนี้ฝนจะยังน้อย หลังจากนั้นวันอังคารจะมีอากาศเย็นบางพื้นที่