ภาคเหนือร้อนสุดขีด! พบผู้ป่วย Heat Stroke เสียชีวิตแล้ว

กรมอนามัย ห่วงอากาศร้อนจัด เผยปี 2562 – 2566 มีผู้เสียชีวิตจากความร้อนสะสม 131 คน เฉลี่ย 26.1 คนต่อปี และแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น แนะประชาชน กลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ทำงานกลางแจ้ง ดูแลและป้องกันตนเองจากความร้อน  

วันนี้ (1 พ.ค. 67) พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ความร้อนประเทศไทยจากกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2567 พบว่า ค่าดัชนีความร้อน หรือ Heat Index ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ จำนวน 7 จังหวัด โดยเฉพาะ จ. ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, สุราษฎร์ธานี, ตราด, ชลบุรี, จันทบุรี มีค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายมาก (สีแดง) ซึ่งคาดว่าสภาพอากาศร้อนจัดมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้เจ็บป่วยและอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ค่าดัชนีความร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยาทางเว็บไซต์ http://www.rnd.tmd.go.th/heatindexanalysis/ และ Facebook กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างต่อเนื่อง

หากค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตราย (สีส้ม) (42.0 – 51.9 องศาเซลเซียส) ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดูแลไม่ให้ทารกและเด็กเล็กอยู่ในรถที่จอดตากแดด ผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาให้พร้อม และดื่มน้ำสะอาดๆ ให้เพียงพอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพตนเอง 

ทั้งนี้จากข้อมูลการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตด้วยโรคจากความร้อน (กลุ่มโรค Heat Stroke) ในช่วงปี 2562 – 2566 พบว่า มีผู้เสียชีวิตสะสม 131 คน เฉลี่ยเป็น 26.1 รายต่อปี และพบแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้ในปี 2566 กรมอนามัยยังได้ติดตามเฝ้าระวังอาการและพฤติกรรมการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อนโดยพบว่าอาการเสี่ยงที่พบมากที่สุด คือ ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริวตามขา แขนหรือท้อง รวมถึง ยังพบพฤติกรรมเสี่ยงจากความร้อน เช่น ไม่ได้เช็คพยากรณ์อากาศ ก่อนออกจากบ้าน อยู่ในห้องที่ระบายอากาศได้ไม่ดีหรือไม่มีเครื่องปรับอากาศ หลังจากทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ได้อาบน้ำเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกาย

นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 ระบุว่า ภาคเหนือ อุณหภูมิสูงสุด 44.1 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ รองลงมา 43.6 องศาเซลเซียส ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง และ 43.5 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมืองกำแพงเพชร อ.เมืองลำพูน อ.เมืองลำปาง ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้พบผู้ป่วยโรงพยาบาลแพร่ ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 สงสัย โรค Heat Stroke จำนวน 5 คน ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 1 คน ขอให้ประชาชนสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้แก่ อุณหภูมิแกนกลางร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ผิวหนังแดงร้อน ชีพจรเต้นเร็วและแรง ปวดศีรษะ สับสน มึนงง คลื่นไส้หรืออาเจียน ความรู้สึกตัวของร่างกายเปลี่ยนไป หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านจากโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) โดยดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หรือก่อนออกจากบ้าน ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด นำน้ำดื่มติดตัว และทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ประชาชนควรอยู่ในอาคาร หรือบ้านพัก ให้เปิดหน้าต่าง และพัดลม หากมีเครื่องปรับอากาศให้เปิดร่วมกับเปิดพัดลม ให้ส่าย เพื่อกระจายอากาศ  หากพบผู้ป่วยโรคฮีทสโตรกให้รีบ ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล หรือโทร 1669

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active