สั่งทุกหน่วยงานเร่งสำรวจพื้นที่น้ำท่วม ให้ความช่วยเหลือประชาชนเร็วที่สุด ปภ. ระบุ ประชาชนได้รับผลกระทบน้ำท่วม 4 แสนกว่าครัวเรือน พื้นที่ท่วม 8.7 ล้านไร่ กอนช. คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
วันนี้ (23 ต.ค. 2565) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วม รวม 30 จังหวัด 143 อำเภอ 905 ตำบล 6,141 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 431,367 ครัวเรือน ขณะที่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 16 – 23 ต.ค. นี้ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในภาคใต้รวม 8 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สตูล กระบี่ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส
ขณะที่ผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. – 22 ต.ค. 2565 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 59 จังหวัด 352 อำเภอ 1,869 ตำบล 11,715 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 523,285 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 6 ราย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 27 จังหวัด ได้แก่พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก สระบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 138 อำเภอ 891 ตำบล 6,056 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 429,026 ครัวเรือน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือผ่านทาง Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
นายกฯ เร่งทุกหน่วยสำรวจพื้นที่น้ำท่วม เยียวยาและช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้และพื้นที่น้ำท่วมยังไม่เท่าปี 2554 แม้ฝนตกสูงกว่าค่าปกติถึง 21% สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. เร่งกำกับติดตามแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้แก่หน่วยงานปฏิบัติภายใต้ กอนช. เพื่อระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขัง ที่ได้เร่งระดมเครื่องจักรเครื่องมือ ใช้ทุกกลไกในการบริหารจัดการน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบอยู่ขณะนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าในช่วงกลางเดือน พ.ย. จะเข้าสู่สภาวะปกติ
สำหรับการสำรวจพื้นที่เสียหายจากภาพถ่ายดาวเทียมระหว่างวันที่ 1-20 ต.ค. มีพื้นที่น้ำท่วมประมาณ 8.7 ล้านไร่ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมการเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะทำงานสำรวจความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ดำเนินการสำรวจประมาณราคาความเสียหาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มปริมาณฝนลดลงและกำลังเข้าสู่ฤดูแล้งรัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อประชาชนผู้ประสบอุทกภัย กำหนดลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ ณ จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในวันจันทร์ที่ 24 ต.ค. นี้ เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่น้ำท่วม เยียวยาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอน้ำลด
ขณะที่สภาพอากาศในช่วงวันที่ 23 – 25 ต.ค. นี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่
26 – 28 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบนทำให้ลมตะวันออกที่พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร