‘สุโขทัย’ น้ำยังล้นตลิ่ง! ลุ่มเจ้าพระยาเตรียมรับช่วงต่อ เฝ้าระวังถึง 30 ก.ค. นี้

สทนช. ระบุ 13 จังหวัด เหนือ อีสาน น้ำยังล้นตลิ่ง ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำโขง และลุ่มเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น 1 – 2 วันนี้

วันนี้ (27 ก.ค. 68) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ รายงานจังหวัดที่ยังมีน้ำล้นตลิ่ง ที่ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ตาก น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่ สุโขทัย เลย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี อุบลราชธานี

ลุ่มน้ำยม

จังหวัดแพร่ ที่สถานี Y37 จังหวัดแพร่ สถานี Y33 ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ระดับน้ำยังล้นตลิ่ง

ลุ่มน้ำน่าน

ลุ่มน้ำน่านในเขตเมืองน้ำลดแล้ว แต่หากดูแม่น้ำน่าน ที่พิษณุโลก พิจิตรระดับน้ำก็ลดลง

ลุ่มน้ำโขง

ไม่ว่าจะเป็น เลย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี อุบลราชธานี ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน

ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ จ.ชัยนาท จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องเริ่มเตรียมพร้อม เพราะจ.นครสวรรค์ ค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์จะระบายน้ำ 1,300-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จะระบายน้ำ 1,000-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเตรียมรับน้ำท่วม

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 68 ในพื้นที่ 6 จังหวัด 34 อำเภอ ได้แก่

จ.เชียงราย อ.เมืองฯ อ.ป่าแดด เทิง อ.เวียงแก่น อ.เชียงของ อ.ขุนตาล อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.เวียงชัย อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.พญาเม็งราย อ.พาน อ.ดอยหลวง อ.แม่จัน อ.แม่ลาว จ.ลำปาง อ.งาว อ.วังเหนือ จ.น่าน อ.เมืองฯ อ.ภูเพียง อ.ปัว อ.เชียงกลาง อ.ท่าวังผา อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เวียงสา อ.บ่อเกลือ อ.บ้านหลวง อ.แม่จริม จ.แพร่ อ.เมืองฯ อ.สอง อ.หนองม่วงไข่ อ.สูงเม่น จ.เลย อ.ด่านซ้าย และ จ.สุโขทัย อ.เมืองฯ อ.ศรีสำโรง

ขณะที่ น้ำเหนือที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม ช่วงเขตเมืองสุโขทัย เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อวาน อยู่ที่  7 เมตร 45 เซนติเมตร เป็นสาเหตุล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่หมู่ 1 ตำบลปากแคว และบริเวณชุมชนวัดคูหาสุวรรณ ตำบลธานี เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี แม้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และองค์การบริหารส่วนตำบลปากแคว พยายามนำถุงบิ๊กแบ๊กและกระสอบทราย มาปิดตลิ่งช่วงที่มีน้ำล้น แต่เนื่องจากน้ำมีปริมาณมาก ทำให้แนวกระสอบทรายพังลงมา และน้ำไหลท่วมชุมชนในหลายจุดทางจังหวัด ได้แจ้งเตือนให้ ประชาชนเร่งเก็บทรัพย์สินและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะคาดว่าระดับน้ำ จะเพิ่มสูงขึ้นอีก

นพพล ภู่เจริญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า จุดที่แนวกระสอบทรายพัง อยู่หน้าวัดคูหานิเวศน์ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมพื้นที่วัด และชุมชนโดยรอบ จึงนำถุงบิ๊กแบ็คเข้าปิดรอยรั่ว ด้านชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 1 ปากแคว ตำบลปากแคว อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ระบุว่า ปีนี้น้ำมาเร็วและมีปริมาณมาก ส่งผลให้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหาย

ส่วนการคาดการณ์มวลน้ำ จากอำเภอวังชิ้น มวลน้ำจากจังหวัดเเพร่ จะเข้าสู่จังหวัดสุโขทัยประมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะมีการบริหารจัดการด้วยการแบ่งไปตามประตูระบายน้ำ คลองหกบาด ประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร และเข้าสู่คลองก้างปลา ให้ตัวเมืองมีอัตราการไหลผ่านของน้ำประมาณ 500 ลูกบาศก์เมตร

น้ำจากแม่น้ำยม ทะลักเข้าสู่พื้นที่บริเวณถนนนิกรเกษม (วันที่ 27 ก.ค. 68 ภาพ : Thai PBS News)

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 ก.ค. 68

ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ จ.น่าน (87 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อำนาจเจริญ (59 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (45 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (48 มม.) ภาคตะวันออก จ.ตราด (83 มม.) ภาคใต้ : จ.ยะลา (32 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม

คาดการณ์ ช่วงวันที่ 28 – 30 ก.ค. 68 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย

สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม ปริมาณน้ำรวม 60% ของความจุเก็บกัก (48,551 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 40% (24,434 ล้าน ลบ.ม.)

ทั้งนี้สำหรับการประชุม คณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ครั้งที่ 1/2568 ณ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งจากฝนตกหนักและตกสะสมในภาคเหนือ โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำน่าน ซึ่งที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานบูรณาการการปฏิบัติงาน ดังนี้

1. กรมชลประทานเร่งดำเนินการเสริมคันดินชั่วคราวป้องกันน้ำณ คันกั้นน้ำคลองยม ให้แล้วเสร็จภายในคืนวันที่ 26 ก.ค. 68

2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ในช่วงวันที่ 26-30 ก.ค. 68 จากอัตรา 15 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็น 10 ล้าน ลบ.ม./วัน และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งให้ กฟผ. วางแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งคาดว่าในช่วงต้นเดือน ส.ค. 68 ปริมาณฝนในพื้นที่จะลดลง จึงให้ กฟผ. ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์เพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได สูงสุดไม่เกิน 30 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนในช่วงเดือน ก.ย. 68 ทั้งนี้ ขอให้ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์รับทราบแผนการระบายน้ำด้วย

นอกจากนี้ ได้เตรียมการบริหารจัดการมวลน้ำที่คาดว่าจะสูงสุดในช่วงเช้าของวันนี้ (27 ก.ค. 68) โดยระบายน้ำส่วนหนึ่งผ่านคลองยม-น่าน และแม่น้ำยมสายเก่า และอีกส่วนระบายผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะผ่านตัวเมืองสุโขทัยให้อยู่ในระดับไม่เกิน 500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่ก่อเกิดให้เกิดผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจเมืองสุโขทัย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active