จากการประชุมพบปัญหาการบริหารไม่เป็นระบบ ฐานข้อมูลไม่ตรงกัน ขาดการจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือ ผู้บัญชาการสถานการณ์ที่เป็นคนนอกพื้นที่ ไม่เข้าใจปัญหา และขาดการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการสถานการณ์
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงวิกฤตมีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก จากการประชุมหารือร่วมกันของ ภาคเอกชน ในพื้นที่ ประเมินสถานการณ์ ว่า ขณะนี้ อาหารและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เริ่มขาดแคลน และจะมีปัญหาในช่วงไม่เกิน 3 วันข้างหน้า ขณะที่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงก็ประสบภัย ไม่สามารถลำเลียงอาหารและอุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่ได้
โจทย์สำคัญ คือมีการประเมินว่า ในช่วงน้ำเริ่มลดซึ่งจะเกิดในอีก 2-3 วันข้างหน้า
- มีผู้ป่วยประมาณ 2-3 พันคน
- จะมีผู้รับความเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือมากกว่า 50,000 คน
- และอาจจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 100 ถึง 1,000 คน
- คำถามคือจะจัด Capacity และระบบการรับมือ กับปัญหาที่รออยู่เหล่านี้อย่างไร
ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีข้อเสนอดังนี้
- ตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง โดยใช้ศูนย์ ปภ.12 เป็นศูนย์กลางในการลำเลียงความช่วยเหลือ กำลังคน บุคลากรการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ จากส่วนกลาง ที่จุดบริจาคดอนเมือง กทม. ผ่านเครื่องบิน C 130 ส่งตรงลงพื้นที่วิกฤตที่มีคนรอรับความช่วยเหลือจำนวนมาก
- ให้มี Dashboard กลาง จัดระบบการบริหารจัดการ จัดการข้อมูล จัดลำดับความสำคัญ วางแผนปฏิบัติงานในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ช่วยเหลือครอบคลุมทั้งผู้ป่วย และการลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ประสบภัยในจุดวิกฤตไปพร้อมกัน
- เร่งแก้ปัญหาการสื่อสาร เทคโนโลยีและอุปกรณ์สัญญาณต่างๆ ให้สามารถสื่อสารระหว่างผู้ประสบภัยกับการช่วยเหลือได้มากขึ้น
- ทลายข้อจำกัดของระบบราชการที่ไม่สามารถทำงานข้ามเขตการปกครองโดยการเชื่อมต่อหน่วยงานให้ทำงานร่วมกันได้
- ในส่วนบัญชาการยังขาดการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการนำพาความช่วยเหลือเข้าถึงพื้นที่ เนื่องจากเป็นผู้ที่รู้จักชุมชนมากกว่าคนนอก
- ผู้บัญชาการสถานการณ์ควรเป็นคนที่รู้จักพื้นที่ โดยเฉพาะการสั่งการ วางระบบการช่วยเหลือในช่วงเร่งด่วน และประสานความร่วมมือระหว่างภาคประชาชนท้องถิ่นและภาคเอกชนให้เข้ามาทำงานร่วมกันได้
- ต้องมีการวางระบบและขั้นตอนที่ชัดเจนในการบูรณาการ ลงปฏิบัติงานในพื้นที่ ขั้นตอน จัดบทบาทว่าใครต้องอยู่ตรงไหน ทำอะไร จัดการโลจิสติกส์ ให้ชัด
นอกจากนี้ ภาคเอกชนเห็นควรเสนอให้นายกฯ มอบ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เข้ามาเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ เนื่องจากเป็นคนพื้นที่ และมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง
