“แท็กซี่” แห่ปรับจูนมิเตอร์ รับราคาใหม่ แน่นสถานีกลางบางซื่อ

วันเดียวกว่า 2,000 คัน รองอธิบดีกรมขนส่ง แนะทยอยนำมิเตอร์มาปรับจูน ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 ก.พ. 2566  เน้นย้ำให้ผู้ขับแท็กซี่ พัฒนาคุณภาพ ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ 

วันนี้ (16 ม.ค. 2566) เสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่ กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน ได้แก่ 

  • บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), 
  • บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM)
  • บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) 
  • บริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) 

ในการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ในการปรับจูนมิเตอร์ตามอัตราค่าโดยสารใหม่ โดยวันนี้ มียอดผู้ขับรถแท็กซี่ที่นำมิเตอร์ของ 4 บริษัทดังกล่าว มาปรับจูนประมาณ 2,000 คัน ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่าณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) จะสามารถดำเนินการได้ 2,000-3,000 คันต่อวัน 

สำหรับปัญหาที่พบเนื่องจากเป็นวันแรกของการปรับจูนมิเตอร์ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีผู้ขับรถแท็กซี่มาใช้บริการจำนวนมาก ทำให้เกิดการแออัดในบางจุดให้บริการ และมีการรอคิวนานในขั้นตอนซีลตะกั่ว จึงได้สั่งการให้ปรับผังการบริการแยกกลุ่มให้กระจายตัวอย่างเหมาะสมไม่เกิดการแออัด และเพิ่มเครื่องซิลตะกั่วรองรับกับจำนวนผู้มาใช้บริการ ปัจจุบันปัญหาต่าง ๆ ได้รับการปรับปรุง คลี่คลายแล้ว  ทั้งนี้  ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์ของ 4 บริษัทดังกล่าวยังสามารถนำมิเตอร์มาปรับจูนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566 ในวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. 

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ขั้นตอนสำหรับผู้สนใจนำมิเตอร์มาปรับจูน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ให้ผู้ขับรถแท็กซี่นำมิเตอร์พร้อมสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ หลังจากนั้นให้มารับบัตรคิวตรงบริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 2 และเมื่อทำการปรับจูนมิเตอร์แล้ว จะมีอัตราค่าปรับจูนมิเตอร์อยู่ที่ 300-350 บาท จากบริษัทมิเตอร์ และเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบมิเตอร์ หากการปรับจูนมิเตอร์ถูกต้องตามประกาศของกระทรวงคมนาคม จะทำการซีลตะกั่วที่ตัวมิเตอร์เพื่อรับรองความถูกต้อง 

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกเตรียมจัดเจ้าหน้าที่และเพิ่มเครื่องซีลตะกั่ว จาก 4 เครื่อง เป็น 6 เครื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วใน การให้บริการโดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ขับรถแท็กซี่นำมิเตอร์มาปรับจูน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)  รวมทั้งหมดประมาณ 72,000 คัน

สำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์จากบริษัทอื่นๆ นอกเหนือจาก 4 บริษัทดังกล่าวหรือกรณีแท็กซี่ของสหกรณ์หรือกลุ่มนิติบุคคลที่มีจำนวนมากสามารถรวมกลุ่มกันไปดำเนินการกับบริษัทที่ปรับจูนมิเตอร์ที่มีให้บริการกว่า 10 บริษัท และนำมิเตอร์ที่ปรับจูนแล้วมารับรองความถูกต้องที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5  ส่วนตรวจสภาพรถ งานตรวจสภาพรถรับจ้างและรถอื่น อาคาร 4 

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตามหลังจากที่แท็กซี่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ครั้งนี้คาดว่าจะทำให้คนขับรถแท็กซี่มีรายได้เพิ่มประมาณ 180 บาทต่อคันต่อวัน และขอเน้นย้ำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัดด้วย

ค่ามิเตอร์แท็กซี่อัตราใหม่ 

(1) กรณีรถยนต์รับจ้าง ที่มีลักษณะเป็นรถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวนรถยนต์นั่งสามตอน และรถยนต์นั่งสามตอนแวน ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 40 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

(2) กรณีรถยนต์รับจ้าง

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active