6 ทุ่งลุ่มต่ำลพบุรีเตรียมพร้อมรับน้ำหลาก “ตัดยอดน้ำเจ้าพระยา” ช่วยคนกรุงฯ-เพิ่มผลผลิตให้ชาวนา

ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 68 หน่วยงานด้านน้ำคาดการณ์มีแนวโน้มปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าปกติ 11% และปริมาณฝนสะสมทั่วประเทศสูงกว่าปกติ 15% ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำมาก ด้านสำนักงานชลประทานที่ 10 ลพบุรี ตั้งรับสร้างการมีส่วนร่วมเกษตรกรและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่ง รองรับน้ำหลากในพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว

วันนี้ (9 ส.ค.68) นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 เปิดเผยถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำในภาคกลางว่า จากข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์น้ำในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2568 มีแนวโน้มปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าปกติ 11% และปริมาณฝนสะสมทั่วประเทศสูงกว่าปกติ 15% ซึ่งอาจส่งผลกระทบได้

สำนักงานชลประทานที่ 10 จึงเดินหน้าตามแผนรับมือน้ำหลาก เตรียมพร้อมบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่งในภาคกลาง หลังคาดการณ์ปริมาณฝนช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2568 จะสูงกว่าค่าปกติ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 70 เครื่อง และประสานงานกับเครือข่ายผู้ใช้น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน สำนักงานชลประทานที่ 10 ลพบุรี เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก-รับน้ำเข้าทุ่ง สร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่ง

ปีที่ผ่านมา สำนักงานชลประทานที่ 10 ได้จัดให้มีการประชุมใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่ง และเมื่อน้ำหลากมา เกษตรกรในพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว พร้อมทั้งยินยอมให้นำน้ำเข้าทุ่ง จึงทำให้สามารถตัดยอดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 50 % ของน้ำทุกทุ่งในภาคกลางที่จะรับได้ อีกทั้งยังไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน พร้อมทั้งน้ำในทุ่งสามารถช่วยเตรียมแปลงให้เกษตรกรได้เร็วขึ้น และทำให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้เร็วขึ้นหลังสิ้นสุดฤดูฝน

นายสมบุญ พูลผล เลขากลุ่มบริหารการใช้น้ำบ้านหนองมน ต.บ้านหลวง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี ซึ่งปลูกข้าวอยู่ในทุ่งบางกุ่ม บอกว่า ขณะนี้เขากำลังเร่งเกี่ยวข้าวให้เสร็จและเตรียมแปลงนาไว้รองรับน้ำเหนือที่กำลังจะหลากมา เขาย้ำว่าการบริหารจัดการน้ำในทุ่งร่วมกันกับสำนักงานชลประทานที่ 10 ช่วยให้เกษตรกรไม่เสียหาย เพราะสามารถวางแผนการเพาะปลูกได้ล่วงหน้า ทุ่งบางกุ่มมีพื้นที่ประมาณ 83,000 ไร่ และพร้อมที่จะพักดินและรับน้ำในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เพื่อชะลอน้ำไม่ให้หลากท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งน้ำที่นำมาเก็บไว้ในทุ่งสามารถช่วยให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 50 % แต่มีผลผลิตไร่ละประมาณ 1,000 กิโลกรัม จากการทำนาปรังปีละ 2 รอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทำนาปีได้เพียงปีละครั้ง แต่ได้ผลผลิตต่ำกว่าถึงเท่าตัว

นายสุประวัติ ชยาทิกุล ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 10 กล่าวว่า สำนักงานชลประทานที่ 10 มีพื้นที่ลุ่มต่ำจำนวน 6 ทุ่ง จากจำนวนทุ่งทั้งหมดของกรมชลประทาน 11 ทุ่ง คิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 280,591 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำกักเก็บ 503 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้แก่ ทุ่งเชียงราก,  ทุ่งท่าวุ้ง, ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก, ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งบางบาล-บ้านแพน และ ทุ่งบางกุ่ม ซึ่งเป็นทุ่งที่ใหญ่ที่สุดใน    6 ทุ่ง และได้ดำเนินการจัดทำประชาคมพื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 6 ทุ่ง ก่อนที่จะถึงช่วงที่น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นประจำทุกปี โดยจัดประชุมร่วมกับเกษตรกร ผู้เกี่ยวข้อง กลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ของแต่ละพื้นที่ลุ่มต่ำ

นายสุประวัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือและบุคลากรแล้ว สำนักงานชลประทานที่ 10 ยังได้ให้ความสำคัญกับการบูรณาการทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้ใช้น้ำในพื้นที่ สอบถามความยินยอมในการรับน้ำเข้าทุ่งของเกษตรกรล่วงหน้า และการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนและเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และหวังว่าการเตรียมการทั้งหมดนี้จะช่วยลดผลกระทบและความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นได้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active