พร้อมขอให้เยียวยาเหยื่อทุกทาง ย้ำทุกองค์กร ไม่ทน! คนใช้อำนาจคุกคาม ละเมิดทางเพศ หวังช่วยกันสร้างสังคมไทย เสมอภาค เท่าเทียม ปลอดภัยจากการคุกคาม ล่วงละเมิด และความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบ
“กลุ่มทำทาง” ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานในประเด็นการเรียกร้องและปกป้องสิทธิทางเพศ สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับนักการเมือง และพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมถึงพรรคก้าวไกล ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิในการทำแท้งปลอดภัย ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน
สืบเนื่องจากมติของพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตัดสินว่า วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 และ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ เขต 26 มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศตามที่มีผู้ร้องเรียนจริง ถือว่าผิดวินัยร้ายแรงของพรรค และได้ลงมติขับ วุฒิพงศ์ ทองเหลา ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ขณะที่ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ลงโทษด้วยการตัดสิทธิพึงมี คาดโทษตลอดสมัยประชุม และให้ออกมายอมรับผิด ขอโทษต่อสังคมและต่อผู้เสียหาย รวมถึงชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ เนื่องจากที่ประชุม สส.พรรค มีเสียงลงมติขับออกไม่ถึง 3 ใน 4
จากนั้นในวันนี้ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ได้แถลงข่าว แจ้งว่า ยอมรับมติของพรรค แต่ไม่ได้แสดงถึงความสำนึกผิด หรือยอมรับว่าพฤติกรรมของตนเองเข้าข่ายการคุกคามทางเพศ รวมถึงไม่ได้แสดงอาการขอโทษ หรือเสนอการเยียวยาผู้เสียหายอย่างจริงใจแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชี้ สส. ก้าวไกล บางกลุ่ม โหวตหนุน “ไชยามพวาน” ตอกย้ำ ยอมรับพฤติกรรมละเมิดทางเพศ
“กลุ่มทำทาง” จึงขอแสดงจุดยืนต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า
1. เราขอยืนสนับสนุนเคียงข้างการปกป้องคุ้มครองสิทธิ และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ถูกคุกคามทางเพศทุกกรณี ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร เพศใด ถูกกระทำโดยบุคคลที่มีสถานะ อำนาจทางการเมือง และสังคมแบบใด
2. เราไม่สนับสนุนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และใช้อำนาจ สถานะของความเป็นนักการเมืองเพื่อเอาเปรียบ หรือแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากผู้อื่นในทุกกรณี
3. เราจะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่ปกป้องสมาชิกของพรรคที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ขณะเดียวกันเราขอสนับสนุนนักการเมืองในพรรคก้าวไกล ที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่ยอมรับเพื่อนสมาชิกที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ
4. กลุ่มทำทางไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่พรรคก้าวไกลเลือกใช้วิธีให้สมาชิกลงมติว่าจะลงโทษผู้กระทำผิดแต่ละรายด้วยการขับออกจากพรรคหรือไม่ ทั้งที่พรรคควรยึดหลัก zero tolerance หรือการไม่ประนีประนอมต่อผู้กระทำและการกระทำความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ เพราะการตัดสินว่าการกระทำใดเป็นการคุกคามทางเพศหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกกำหนดด้วยการลงมติด้วยเสียงข้างมาก แต่จะต้องมาจากการรับฟัง เคารพ และให้ความสำคัญกับเสียงของผู้ถูกกระทำเป็นศูนย์กลาง
5. เราขอเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลดูแลเยียวยาจิตใจผู้เสียหายในทุกทาง รวมถึงควรมีแนวนโยบาย และระเบียบปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานในเรื่องการป้องกันการคุกคามทางเพศ จัดอบรม สร้างความเข้าใจกับ ส.ส. และสมาชิกพรรคในประเด็นการคุกคามทางเพศอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นเดียวกันนี้อีกในอนาคต
6. เราขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงาน องค์กรในสังคมไทยทุกภาคส่วน ไม่ทนต่อบุคคลใดก็ตามที่ใช้แหล่งอำนาจ สถานะ ตำแหน่งแห่งที่ทางสังคม คุกคาม หรือล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้ที่มีอำนาจน้อยกว่า เพื่อช่วยกันสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีความเสมอภาค เท่าเทียม และปลอดภัยจากการคุกคามทางเพศ การถูกล่วงละเมิด และความรุนแรงทางเพศในทุกรูปแบบ