‘โดม – ปกรณ์ ลัม’ ขอโทษ ปมคอมเมนต์คุกคามทางเพศ ‘จินนี่’ ด้าน ‘คุณหญิงสุดารัตน์’ ออกโรงปกป้องลูกสาว ย้ำ ไม่ควรมีใครต้องถูกคุกคามทางเพศ ผู้กระทำต้องรับผิดชอบสิ่งที่ก่อไว้ ทั้งทางสังคม-กฎหมาย ฝั่ง ทนาย ระบุ ประเดิมแก้ไขกฎหมายใหม่ กระทำชำเรา-คุกคามทางเพศ คุ้มครองเหยื่อออนไลน์ และคนทุกเพศ โซเชียลฯ แห่เห็นด้วย ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกกระทำ
วันนี้ (30 ธ.ค.68) จากกรณีที่ศิลปินชื่อดัง โดม – ปกรณ์ ลัม โพสต์คลิปชี้แจง และขอโทษ ภายหลังยอมรับว่าเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ที่มีภาพ จินนี่ – ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ในลักษณะคุกคามทางเพศ โดยช่วงหนึ่ง โดม ระบุว่า

“น่าจะเป็นผมเอง เพราะเมื่อคืนมีกินเลี้ยงกันจนดึก ปกติผมกับคุณดิว (เพื่อนสนิท) มีการแซวเล่นกันเป็นประจำ และไม่ทราบจริง ๆ ว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร ตื่นมาก็งงเข้าไปอ่านไม่คิดว่าเป็นตัวเองเพราะปกติเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงเสมอครับ”
โดม ปกรณ์ ลัม
ทั้งนี้ โดม ยังยืนยัน ขอโทษจากใจจริง และขออย่าดึงตนไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พร้อมทั้งเตรียมให้ทีมงาน ติดต่อคุณหญิงสุดารัตน์ อยากจะขอโทษกับความผิดพลาดนี้ที่เกิดขึ้น
ด้าน ภัชริ นิจสิริภัช กรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ระบุ ผู้เสียหายตัดสินใจดำเนินคดีกับดาราดัง โดยทีมทนายพร้อมแจ้งความเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ และ คุกคามทางเพศ พร้อมโพสต์ประกาศ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา บทนิยามคำว่า “กระทำชำเรา-คุกคามทางเพศ” พร้อมโพสต์ย้ำว่า
“ยินดีด้วย….พ.ร.บ. ฉบับนี้ประกาศใช้วันนี้วันแรก 30 ธ.ค. 2568 ดาราดัง น่าจะประเดิมถูกกล่าวหาเป็นคนแรกประเทศ”
ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์ระบุถึงจุดยืนในฐานะแม่ ต่อกรณีการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นกับลูกสาว แม้ในช่วงนี้สภาพร่างกายจะไม่แข็งแรงนัก แต่จะนิ่งเฉยไม่ได้ พร้อมระบุว่า ในช่วงที่ตนเจ็บป่วย ลูกสาวก็ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้พรรค และเป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยความตั้งใจที่ดีต่อประเทศและองค์กร แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

“ดิฉันต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่แม่ปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาวของดิฉัน และลูกผู้หญิงทุกคน อย่างถึงที่สุด ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ไม่ควรถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กันเช่นนี้ การแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องล้อเล่น แต่เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมทางเพศ และเข้าข่ายการละเมิดและกระทำผิดกฎหมาย”
คุณหญิงสุดารันตน์ ยังขอบคุณที่ช่วยกันส่งเสียงปกป้องจินนี่ และแสดงจุดยืนเคียงข้างความถูกต้อง ย้ำว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อจินนี่คนเดียว แต่เพื่อยืนยันว่าการคุกคามทางเพศไม่ว่าจะในรูปแบบใดหรือกับใครก็ตาม เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในสังคมไทย และผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองก่อไว้ทั้งทางสังคมและกฎหมายอย่างยุติธรรม
ทั้งนี้ยังมีการแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวในโลกออนไลน์ เช่น ณัฐกัญญ์ภา อภิญญ์มณีณัฐ หรือ ทนายน้ำมนต์ ทนายความและผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย ขอเป็นตัวแทนกลุ่มผู้สมัคร สส.หญิง ของพรรคไทยสร้างไทย ออกแถลงประณามและเรียกร้องความรับผิดชอบ และขอโทษต่อการกระทำของตนเองอย่างจริงใจ ไม่เพียงแต่การขอโทษต่อคุณจินนี่ แต่ต้องขอโทษและรับผิดชอบต่อสังคมในเวลาที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศและทุกฝ่ายต่างพยายามร่วมกันขับเคลื่อนกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างมาตรฐานสังคมที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับทุกคน ทุกเพศแต่เรากลับต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้ต้องเกิดกระแสการปกป้องสิทธิของผู้หญิง
ขณะที่ เพจ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก โพสต์ว่า ไม่ทราบจริง ๆ ว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร แต่เป็นใครก็ไม่ควรเปล่า ? นอกจากนี้พี่โดมยังบอกว่า ตื่นมาก็งงเข้าไปอ่านไม่คิดว่าเป็นตัวเองเพราะปกติเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงเสมอครับ ปล.แอบตกใจว่าเพจพี่โดม น่าจะรายได้สูงมากเพราะมีแอดมินตั้ง 7 คน
อวสานสายหื่น ป.อาญา เพิ่มนิยาม ‘คุกคามทางเพศ’ ครอบคลุมออนไลน์-ทุกเพศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.68 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2568 ซึ่งมีใจความสำคัญว่า
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (18) ของมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(18) กระทำชำเรา หมายความว่า กระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้อวัยวะอื่นของผู้กระทำหรือวัตถุล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น หรือการให้ผู้อื่นกระทำกับผู้กระทำในลักษณะเดียวกัน แต่การให้ผู้อื่นกระทำการดังกล่าวนั้นไม่รวมถึงกรณีที่ผู้อื่นใช้อวัยวะอื่น หรือวัตถุล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้กระทำ ทั้งนี้ อวัยวะเพศให้หมายความ รวมถึงอวัยวะเพศจากการผ่าตัด
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (19) ของมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
“(19) คุกคามทางเพศ หมายความว่า กระทำโดยทางการ วาจา การส่งเสียง การแสดงอากัปกิริยาหรือท่าทาง การติดต่อสื่อสาร การเฝ้าดู การติดตามรังควาน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ รวมถึงกระทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นที่สามารถแสดงผลให้เข้าใจความหมายได้ ต่อผู้อื่น อันมีลักษณะส่อไปในทางเพศ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเดือดร้อนรำคาญ อับอาย ถูกเหยียดหยาม หวาดกลัว หรือได้รับความไม่ปลอดภัยในทางเพศ”
หมายเหตุ – เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องในปัจจุบันมีการกระทำความผิดทางเพศในหลายรูปแบบและเป็นการกระทำต่อบุคคลทุกวัยทุกเพศ รวมถึงผู้มีความหลากหลายทางเพศอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ถูกกระทำ
ดังนั้น จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติม บทนิยามคำว่า “กระทำชำเรา” และเพิ่มบทนิยามคำว่า “คุกคามทางเพศ” เพื่อให้ครอบคลุมถึงการกระทำความผิดในพฤติการณ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย และเนื่องจากในปัจจุบันปัญหาการคุกคามทางเพศมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งกฎหมายที่มีการกำหนดให้การกระทำในลักษณะดังกล่าว มีความผิดนั้น มีเพียงความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญซึ่งเป็นความผิดฐานลหุโทษและยังไม่ตรงกับลักษณะของการกระทำที่เป็นการคุมคามทางเพศโดยตรง สมควรกำหนดให้การคุกคามทางเพศเป็นความผิดทางอาญา เพื่อเป็นการลงโทษผู้กระทำความผิดและปรามมิให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น และกำหนดวิธีการเพื่อความปลอดภัยเพื่อป้องกันสังคมจากปัญหาการคุกคามทางเพศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
