กสศ. ดึง เอกชน-ภาคธุรกิจ จับคู่ฟื้นฟูโรงเรียน – นร.ยากจน หลังน้ำท่วม ลดเสี่ยงหลุดระบบการศึกษา

ย้ำ เร่งประสานภาคธุรกิจ ช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เบื้องต้นพื้นที่ จ.สงขลา มีกว่า 150 แห่ง ยอมรับ หากรอการเยียวยาจากภาครัฐ อาจล่าช้า หลายขั้นตอน หวั่นส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กในพื้นที่ 

วันนี้ (5 ธ.ค. 68) อาสาสมัครจากหลายหน่วยงานเร่งช่วยกันทำความสะอาด โต๊ะ เก้าอี้ และ อุปกรณ์สำนักงาน ของโรงเรียนบ้านท่าไทร ตำบลคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเปิดการเรียนการสอนในวันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคมนี้

ธีรมาส เพ็ชรภิมล ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าไทร เปิดเผยว่า ที่นี่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีครู 8 คน ดูแลเด็กประมาณ 120 คน แบ่งเป็นสัญชาติไทย 100 คน และอื่น ๆ  20 คน เด็กเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง เพราะมีฐานะยากจน ส่วนโรงเรียนก็เป็น โรงเรียนขนาดเล็ก แม้จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณ แต่ก็ไม่เพียงพอดูแลเด็กทั้งหมด เพราะเดิมทีก็ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน หนังสือเรียนที่จำเป็นรวมถึง อุปกรณ์การเรียนอยู่แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม ก็ยิ่งทำให้ได้รับผลกระทบมากขึ้นไปอีก

“การให้ความช่วยเหลือจากภาคประชาชน และเอกชนจะช่วยให้โรงเรียนและเด็กผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้ และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กตกหล่นหรือหลุดออกจากระบบการศึกษา”

ธีรมาส เพ็ชรภิมล

ครูโรงเรียนบ้านท่าไทร ยังอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างอาคารเรียนให้มีระดับความสูง 2 – 3 เมตร เพื่อเก็บสิ่งของเหล่านี้ในช่วงน้ำท่วม อีกทั้งยังเพื่อจัดให้เป็นที่พักพิงชั่วคราวกับเด็กที่มีฐานะยากจน ที่บ้านได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติรูปแบบต่าง ๆ ในอนาคต เพราะที่ผ่านมาพบว่าระดับน้ำท่วมสูง 2 ถึง 3 เมตร แต่อาคารเรียนสูงเพียง 1 เมตรเท่านั้น

ขณะที่ ภัทระ คำพิทักษ์ ที่ปรึกษากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า กสศ. ใช้วิธีรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ ซึ่งครูแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านแอพพลิเคชันปักหมุดจุดช่วยเหลือ โดยหลังได้รับข้อมูลแล้วก็จะคัดกรองก่อนประสานตลาดหลักทรัพย์ เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังภาคธุรกิจที่มีกำลังทรัพย์ ต้องการจะให้ความช่วยเหลือ จากนั้นจะนำบริษัทเหล่านี้มาจับคู่ เพื่อระดมทุนเข้าฟื้นฟูโรงเรียน เช่นกรณีนี้ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนในพื้นที่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบประมาณ 150 แห่ง 

ที่ปรึกษา กสศ. ยังบอกด้วยว่า โครงการนี้จะช่วยลดขั้นตอนในการระดมทุนสนับสนุนช่วยเหลือเด็กกลุ่มเปราะบาง เพราะหากรอการเยียวยาจากภาครัฐ จะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกโรงเรียนตามกลุ่มเป้าหมายหลายขั้นตอน ซึ่งอาจจะทำให้การดำเนินการล่าช้า และส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กในพื้นที่ เป็นการป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active