ประชาธิปัตย์ จับมือ เพื่อไทย สกัดพิจารณาวาระสอง อ้างแก้ไขหลายมาตรา อาจไม่รอบคอบ ชี้สังคมท้วงหนัก ไม่ใช่เพื่อการแพทย์
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้ถอน ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่….) พ.ศ. ออกจากระเบียบวาระการประชุม ด้วยเสียง 347 เห็นด้วย 198 ต่อ 136 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เดิมเราหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวกฎหมายที่ใช้ควบคุมการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงทางการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแต่ปรากฎว่าในชั้น กมธ.มีการปรับแก้อย่างมาก ไม่ตอบโจทย์ว่าจะควบคุมเรื่องที่หลายฝ่ายเป็นห่วงได้อย่างไร โดยเฉพาะการนำกัญชามาใช้ทางสันทนาการพรรคเพื่อไทยจึงมีมติว่าจะไม่ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.กัญชา ฯ
ขณะที่ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำไปปรับปรุงอีกสักครั้งหนึ่ง เพราะหลังจากสภาฯ รับร่างกฎหมายฉบับนี้ มีการปรับปรุงแก้ไขทั้งร่าง จากเดิมมี 45 มาตรา เพิ่มเป็น 69 มาตรา และแก้เกือบทุกมาตรา อาจไม่รอบคอบได้
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 – 9 มิถุนายน ที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด มีความวิตกกังวลไปทั่วทั้งจากวงการการแพทย์ วงการศึกษา ประชาชนทั่วไป และเข้าใจว่าเป็นการเปิดกัญชาเสรีแล้ว กฎหมายฉบับนี้น่าจะนำไปสู่การควบคุมได้ดีที่สุด แต่ปรากฏว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ได้เป็นการควบคุม หรือกำหนดให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ข้อเรียกร้องจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดของคณะแทพย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ทบทวนกฎหมายฉบับนี้ ถึงขนาดว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกหรือไม่ หรือ ในบทบัญญัติมาตราอื่น ที่ให้ประชาชนปลูกได้โดยเสรี เพียงไปจดแจ้งเท่านั้น ซึ่งใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ แต่เป็นการสันทนาการ
ด้าน ประสิทธิชัย หนูนวล หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. (โควต้าพรรคก้าวไกล) กล่าวว่า งง กับ บรรยากาศการประชุมวันนี้ในฐานะที่เป็นกรรมาธิการที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถูกตีตกไป โดยไม่ต้องดูเนื้อหา ปกติแล้วเมื่อเข้าสภาฯ ก็ว่ากันรายมาตรา อันไหนคงเดิม อันไหนต้องแก้ ทำกันให้รอบคอบที่สุด
“หลังจากนี้มันจะเสรีแบบไม่มีขอบเขต สังคมต้องรับรู้ว่าการที่ไม่มีกฎหมายมาคุมกัญชา เป็นเพราะพรรคใดที่เป็นต้นเหตุ”
ประสิทธิชัย ระบุ
เขาย้ำว่า ความวุ่นวายจากการไม่มีกฎหมายมาควบคุมกัญชามี 3 พรรคที่ต้องรับผิดชอบ คือ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และประชาชาติ ซึ่งเล่นการเมืองกันจนไม่สนความถูกผิด
ขณะที่ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. กล่าวว่า ทางกรรมาธิการได้ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว ด้วยกรรมาธิการที่มีตัวแทนทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยที่ประชุมได้มีการรับฟังความเห็นที่หลากหลายรอบด้านแล้ว และที่เราต้องเร่งรัดมาจนถึงวันนี้ ก็ด้วยมีความหวังว่าต้องการจะยุติภาวะสุญญากาศทางกฎหมายของกัญชาให้เร็วที่สุด เพื่อมีกฎหมายมากำกับที่มีการดูแลได้ดีกว่าสภาพปัจจุบัน
ส่วนกฎหมายจะผ่านหรือไม่ผ่าน หรือจะมีการยืดเยื้อระยะเวลาออกไปอีกนานแค่ไหน เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมาก ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยเท่านั้น
ปานเทพ ยังบอกอีกว่า ถ้าย้อนกลับไปวันที่ประชุมกรรมาธิการนัดแรก พรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่ากลัวกฎหมายจะไม่รอบคอบรัดกุม แต่ผู้แทนของพรรคประชาธิปัตย์กลับเป็นผู้เสนอฟูลมูนปาร์ตี้ในเกาะแห่งหนึ่งเสียเอง
“ยืนยันร่างกฎหมายนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนทางการแพทย์ และกลุ่มทุนผูกขาด ยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่มีทางจะปล่อยให้กัญชาเป็นยาเสพติดเพราะรัฐสภาเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์เอง”
ปานเทพ กล่าว