“ชาวอำเภอจะนะ” วางพวงหรีดหน้า สสจ.สงขลา ประท้วงคำสั่งย้าย ผอ.รพ.จะนะ ด้าน “เอ็นจีโอ” ภาคใต้ หวั่นนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เดินหน้าง่ายขึ้น ขณะที่ “อนุทิน” ยันย้าย “นพ.สุภัทร” ไม่เกี่ยวการเมือง แจงคนเก่งอยู่ไหนก็ทำงานได้
วันนี้ (27 ม.ค. 2566) ชาวบ้าน อ.จะนะ จ.สงขลา เดินทางมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา พร้อมแผ่นป้ายข้อความค้านคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ อดีต ผอ.โรงพยาบาลจะนะ โดยนำพวงหรีดมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไว้อาลัย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของ กำลังอาสารักษาดินแดน และตำรวจภูธรเมืองสงขลา
สมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเอ็นจีโอในภาคใต้ บอกว่าการโยกย้ายในครั้งนี้นั้น เห็นชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะมีการออกระเบียบมาเพื่อให้ผู้ตรวจมีอำนาจในการสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงต้องมาถามหาสาเหตุ และต้องให้บทเรียนกับรัฐมนตรีอนุทินและพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่ ประสิทธิ์ทธิชัย หนูนวล ระบุว่า การโยกย้ายข้าราชการในพื้นที่เป็นเรื่องปกติแต่สำหรับกรณีนี้เป็นการเป็นคำสั่งย้ายเดี่ยว และไม่มีการอธิบายถึงที่มาและเหตุผล โดยการโยกย้าย นพ.สุภัทร ในครั้งนี้เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่ง นพ.สุภัทร เป็นแกนนำร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ นพ.สุภัทร ในฐานะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ซึ่งยังอยู่ระหว่างทำการศึกษา เมื่อถามว่ากลุ่มภาคประชาชนภาคใต้จะออกมาเคลื่อนต่ออย่างไร ประสิทธิชัย บอกว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรในขณะนี้ รอดูสถานการณ์
The Active ได้รับคำชี้แจงจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาว่า การโยกย้าย นพ.สุภัทร มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาด้วยเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถจึงอยากให้ไปพัฒนาโรงพยาบาลในพื้นที่อื่นให้มีความเจริญเหมือนอย่างที่ทำมาแล้วที่โรงพยาบาลจะนะ โดยยืนยันว่าเป็นไปตามขั้นตอนการโยกย้ายตามระเบียบราชการ สำหรับโรงพยาบาลสะบ้าย้อย อยู่ห่างจากโรงพยาบาลจะนะ ราว 60 กิโลเมตร ที่ผ่านมาไม่เคยมีการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลระหว่างอำเภอในจังหวัดเดียวกัน โดยปกติจะย้ายข้ามจังหวัด
สอดคล้องกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวล ยืนยันว่าย้าย นพ.สุภัทร ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เพราะรัฐมนตรีไม่ได้ลงไปรู้จักกับ ผอ.รพ.ชุมชน พร้อมปฏิเสธมูลเหตุการโยกย้ายมาจากวิจารณ์นโยบายกัญชาและการควบคุมโควิด เพราะฝ่ายการเมืองจะไปหวั่นไหวกับทุกเรื่องได้อย่างไร การเมืองดูแลเรื่องนโยบาย ส่วนปลัดกระทรวงถ่ายทอดนโยบายไปยังข้าราชการ หากนโยบายใดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกระเบียบก็สามารถเลือกไม่ปฏิบัติตามได้ ดังนั้น อย่าเอารัฐมนตรี เอาเรื่องการเมืองเข้าไปข้องเกี่ยว
โดยระบุว่าการโยกย้ายแบบนี้ ก็เคยเกิดมาแล้ว สมัย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ย้ายไป รพ.ร้อยเอ็ด ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้ อยู่ไหนก็ทำความเจริญ ถ้าเรามีความมั่นใจว่าทำความเจริญ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไร หลังจากย้ายไปแล้ว เวลาที่ใครถูกย้ายแล้วโวยวาย ส่วนใหญ่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจทำอะไรไม่ดีไม่งามไว้ แล้วกลัวคนมาตรวจสอบ