แถลงการณ์ ’20 ปี ตากใบ’ วอนดึง ICC รื้อปม จนท.รัฐ ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ

เรียกร้องผู้มีอำนาจตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ ที่เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง พร้อมให้รัฐประณามการลอยนวลพ้นผิด

วันนี้ (25 ต.ค. 67) ณ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ออกแถลงการณ์ในงานครบรอบ 20 ปี ตากใบ โดยระบุว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว

เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้

  1. ให้รัฐบาลมีการสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยการร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้า มาตรวจสอบ หรือ ขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court – ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

  2. ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

  3. ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวใน การดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย

แถลงการณ์ “คดีตากใบ : การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนง ที่มุ่งมั่นและเปิดกว้าง ต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการแสวงหาความยุติธรรม ในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ

เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active