หลังฟ้อง ‘บริษัท วิน โพรเสส จำกัด’ เรียกร้องค่าเสียหายและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เมื่อปี 2564 ศาลฯ สืบพยานนัดแรกแล้ว ชาวบ้านชี้ สารพิษรั่วไหลปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำจนพื้นที่ทางเกษตรเสียหายนับร้อยไร่
วันนี้ (18 ต.ค. 2565) มูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า ศาลจังระยองนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีที่ชาวหนองพะวา หมู่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นฟ้อง บริษัท วิน โพรเสส จำกัด เพื่อเรียกร้องเยียวยาความเสียหาย และให้บริษัทดำเนินการกำจัดมลพิษ ตลอดจนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสียหาย ทั้งแหล่งน้ำและการปนเปื้อนสารพิษ รวมถึงพื้นที่และพืชผลทางการเกษตรที่เสียหายนับร้อยไร่
“กลิ่นสารเคมีที่เหม็นฉุนคละคลุ้ง แหล่งน้ำที่เคยสะอาดแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีส้มอำพัน มีค่าความเป็นกรดสูงจนไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ ต้นไม้ที่เคยยืนต้นต่างล้มตายเพราะสารพิษจากโรงงาน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ชาวหนองพะวาต้องเผชิญความทุกข์ทนกับมลพิษอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ก่อมานานกว่า 10 ปี”
มูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุ
ด้าน ชำนัญ ศิริรักษ์ ทนายความ เปิดเผยกับ The Active ว่าวันนี้มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์ทั้งหมด 10 ปาก จากพยานทั้งหมด 14 ปาก ประเด็นที่ศาลซักถามส่วนใหญ่เป็นการเชื่อมโยงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งฝ่ายจำเลยไม่ได้มีประเด็นโต้เถียงและยอมรับข้อเท็จจริงในประเด็นผู้ก่อมลพิษ แต่ประเด็นที่มีการโต้แย้งคือตัวเลขค่าความเสียหายที่มีการเรียกร้อง ซึ่งจำเลยอ้างว่าไม่สอดคล้องตามหลักวิชาการและความเสียหายจริง
”สืบพยานโจทก์ไป 10 ปาก ตามกระบวนการขั้นตอนที่ศาลกำหนด ประเด็นหลักในเรื่องพิสูจน์ความเสียหายตามข้อเท็จจริง โรงงานซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไม่มีประเด็นโต้เถียงเยอะ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน คือ จำเลยที่ 1 เป็นผู้ก่อมลพิษ ส่วนค่าเสียหายที่มีการโต้แย้ง จะเชิญกรมควบคุมมลพิษมาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ในวันหลัง คาดว่าจะใช้เวลาตัดสินได้ภายในสิ้นปีนี้”
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ตัวแทนชาวหนองพะวาได้ยื่นฟ้อง บริษัท วิน โพรเสส ข้อหาก่อมลพิษสร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรกว่าร้อยไร่ โดยเรียกร้องให้จำเลยเยียวยาความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เป็นเงินกว่า 47 ล้านบาท รวมทั้งฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ให้กลับมามีสภาพดังเดิม ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี หลังการยื่นฟ้อง ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษของโรงงานมาโดยตลอด การสืบพยานในวันนี้จึงถือเป็นวันที่สำคัญสำหรับการต่อสู้กับมลพิษอุตสาหกรรมของชาวหนองพะวา
