ประปาเชียงราย เปิดระบบกำจัด ‘สารหนู’ หลังปนเปื้อนน้ำกก ยันประชาชนยังใช้น้ำได้ตามปกติ!

เผยค่าความขุ่นพุ่งสูงผิดปกติหลักพัน NTU ต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง ยัน ระบบสามารถกำจัดสารหนูได้ถึง 5 เท่า ย้ำน้ำประปาส่งถึงบ้าน ไม่พบปนเปื้อน ยังปลอดภัย ประชาชนใช้น้ำได้ตามปกติ ชี้ต้นเหตุจากประเทศเพื่อนบ้านแก้ไขยาก เตรียมขอ งบฯ ติดตั้งระบบตรวจวัดเรียลไทม์ เพิ่มความมั่นใจ แม้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม   

นิพนธ์ แสงพงษ์ วิศวกร 7 งานผลิต การประปาส่วนภูมิภาค จ.เชียงราย พา The Active สำรวจการผลิตน้ำประปาในทุกขั้นตอน พร้อมเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำดิบจากแม่น้ำกก หลังเกิดกระแสความวิตกกังวลของประชาชนจากกรณีพบสารหนูปนเปื้อน โดยปัญหาเริ่มขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อชาวบ้านในอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ รวมตัวร้องเรียนต่อทางอำเภอ หลังพบว่าน้ำในแม่น้ำมีความขุ่นมากผิดปกติ และบางรายที่ลงเล่นน้ำมีอาการแพ้และคันผิวหนัง

นิพนธ์ แสงพงษ์ วิศวกร 7 งานผลิต การประปาส่วนภูมิภาค จ.เชียงราย พาทีมข่าว The Active สำรวจการผลิตน้ำประปา

หลังจากนั้น กรมควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ได้เข้าเก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำกก 3 จุด คือ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผลการตรวจพบว่ามีสารหนูเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย โดยหากเทียบกับค่ามาตรฐานของประเทศไทยแล้วจะอยู่ที่ 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่วนขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัมต่อลิตร

เมื่อมีการตรวจพบสารปนเปื้อน การประปาส่วนภูมิภาค จ.เชียงราย ได้เก็บตัวอย่างน้ำในพื้นที่รับผิดชอบ 3 จุดเช่นกัน พบว่า มีสารหนูเช่นเดียวกัน จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเร่งตรวจสอบผลกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำประปา

“ในระบบผลิตน้ำของเราสามารถกำจัดสารโลหะหนักอย่างสารหนูได้อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เพิ่มความเข้มข้นในการบำบัด พร้อมวางแผนมาตรการระยะยาวด้วย”

นิพนธ์ แสงพงษ์

ความขุ่นพุ่งหลายพัน NTU หลังน้ำท่วม-ฝนตก

นอกจากสารปนเปื้อนแล้ว ค่าความขุ่นของน้ำปีนี้สูงผิดปกติ โดยปกติในฤดูแล้งค่าความขุ่นจะอยู่ระหว่าง 20-100 NTU (Nephelometric Turbidity Unit) แต่ปีนี้พบค่าสูงถึงหลักพัน NTU ในช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งคาดว่าเกิดจากฝนตกและการเปิดหน้าดิน ทำให้สารในดิน เช่น สารหนู ที่มีตามธรรมชาติถูกชะล้างลงแม่น้ำ

แม้จะมีสารปนเปื้อนในน้ำดิบ แต่ นิพนธ์ ยืนยันว่า ระบบผลิตน้ำประปาสามารถกรองและบำบัดจนค่าสารหนูและความขุ่นอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย โดยค่าความขุ่นของน้ำที่ผ่านการกรองจะต่ำกว่า 1 NTU ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานกรมอนามัยที่กำหนดไว้ไม่เกิน 4 NTU

เพิ่มความถี่การตรวจสอบน้ำดิบ ทุก 8 ชั่วโมง

สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำ การประปาฯ ตรวจน้ำดิบทุก 8 ชั่วโมง และหากพบค่าความขุ่นสูงถึงระดับพัน NTU จะเพิ่มความถี่ในการตรวจเป็นรายชั่วโมง เพื่อให้สามารถปรับกระบวนการผลิตได้ทันสถานการณ์ โดยในช่วงนี้ยังตรวจพบสารหนูในน้ำดิบเกินเกณฑ์อยู่ แต่ไม่มีการพบในน้ำประปาที่ส่งถึงบ้านประชาชน

“แม้ในแม่น้ำยังมีสารโลหะหนักอยู่ แต่จากกระบวนการบำบัดที่เราทำ ค่าดังกล่าวจะไม่หลุดออกไปยังระบบน้ำประปาแน่นอน และเราก็ได้เพิ่มความถี่ในการเก็บตัวอย่างน้ำจากจุดใช้น้ำจริง ทั้งใกล้โรงเรียน โรงพยาบาล และตัวแทนหมู่บ้าน จากเดิมปีละครั้ง เป็นเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่ส่งถึงประชาชนปลอดภัย”  

นิพนธ์ แสงพงษ์

ยอมรับปัญหาระยะยาว ต้องอยู่กับสารปนเปื้อนอีกนาน

ในกรณีที่สถานการณ์ยืดเยื้อและไม่สามารถจัดการต้นเหตุของการปนเปื้อนได้ในเร็ววัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัญหามีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไทยไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบหรือควบคุมได้โดยตรง การประปาฯ ได้เตรียมแผนรองรับระยะยาวแล้ว โดยประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการแก้ไข แต่ก็ยอมรับว่าทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำประปาของที่นี่เพิ่มขึ้น 

“เรามีความสามารถในการบำบัดสารโลหะหนักออกจากน้ำได้ราว 80% หากมีสารหนูในระดับ 0.05 มิลลิกรัมต่อลิตร เราก็สามารถลดลงมาได้เหลือไม่เกินมาตรฐาน 0.01 ได้ หรือพูดง่ายๆ คือสามารถรองรับค่าที่เกินมาตรฐานได้ถึง 5 เท่า ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบปกติในปัจจุบัน แต่ตอนนี้สามารถเพิ่มขึ้นมาเป็น 8 เท่า และระยะยาวเพิ่มได้ถึง 10 เท่า แม้สถานการณ์จะเลวร้ายลง แต่ระบบของการประปายังสามารถรองรับได้”

นิพนธ์ แสงพงษ์

อย่างไรก็ตาม หากระดับสารปนเปื้อนเพิ่มขึ้นจนเกินกว่าระดับที่ระบบปัจจุบันจะรองรับได้ การประปาก็มีแผนจะเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ เช่น ระบบวัดคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ การเพิ่มความสามารถในการจ่ายสารเคมีเพื่อบำบัด และเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ โดยไม่ต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการภายนอก

ในส่วนของการเติมคลอรีน นิพนธ์ บอกว่า โลหะหนักในน้ำบางรูปแบบอยู่ในสภาพสารละลาย จำเป็นต้องใช้คลอรีนเพื่อทำให้เกิดการออกซิไดซ์และตกตะกอน แม้จะต้องเพิ่มปริมาณคลอรีนจาก 1 ส่วนในล้าน เป็น 1.5 ส่วนในล้าน ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยตามมาตรฐาน พร้อมย้ำว่าผู้ใช้น้ำไม่ต้องกังวล เพราะแทบไม่สามารถแยกแยะกลิ่นหรือรสที่ต่างกันได้

นิพนธ์ ยังบอกด้วยว่า การประปาส่วนภูมิภาคเชียงรายได้เสนอของบประมาณผ่านช่องทางพิเศษเพื่อเร่งจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณนี้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า น้ำประปาที่ผลิตและส่งจ่ายไปยังอำเภอเมืองเชียงราย และบางส่วนของอำเภอเวียงชัย ยังคงปลอดภัยและได้มาตรฐาน กรมอนามัยร่วมกับการประปาตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในห้องปฏิบัติการภายในและภายนอก รวมถึงมีการประกาศผลการตรวจสอบให้ประชาชนทราบเป็นประจำ

“แม่น้ำกกอาจมีปัญหาปนเปื้อนสารหนู แต่เมื่อน้ำผ่านระบบของการประปาแล้ว เรามั่นใจว่าสามารถใช้ได้ตามปกติ ทั้งอุปโภคและบริโภค เพราะเราดักไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”

นิพนธ์ แสงพงษ์

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active