‘ประเสริฐ’ ย้ำ ไทยพร้อมถกเมียนมาแก้พิษ ‘น้ำกก’ รอ กต.ส่งสัญญาณ

ยืนยัน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ สั่ง คพ.ตรวจคุณภาพน้ำทุกสัปดาห์ พร้อมแจ้งเตือนประชาชน มั่นใจ มีข้อมูลเพียงพอ ชี้ชัด ต้นตอมลพิษปนเปื้อนจากเหมือง เชื่อสร้าง ‘ฝายดักตะกอน’ เกิดประโยชน์ ลดเสี่ยงได้ แต่ขอประเมินความคุ้มค่า  

วันนี้ (27 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ประชุมติดตาม และแก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และเเม่น้ำโขง ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยเปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดูเรื่องการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในแม่น้ำกก

“ต้องเรียนว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้ทำงานอย่างต่อเนื่องโดยก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบคุณภาพน้ำทุกสัปดาห์ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบ”

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ข้อมูลเพียงพร้อมเจรจาเมียนมา ย้ำชัดเหมืองต้นตอปัญหา

ส่วนการเจรจาแก้ปัญหาต้นเหตุเหมืองแร่ในประเทศเพื่อนบ้านนั้น รองนายกฯ ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเนื่องจากว่า ต้องมีความมั่นใจว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร

เราได้ข้อมูลที่เพียงพอแล้วในขณะนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการทำเหมืองแร่ทองคำ ในประเทศเพื่อนบ้าน และมีข้อมูลที่ครบแล้ว พร้อมแล้วที่จะไปเจรจากับฝ่ายเมียนมา โดยภาพถ่ายดาวเทียมจากจีสด้า ที่เก็บรวบรวมไว้ในระยะที่ผ่านมาช่วงก่อนกับหลัง ผลต่างกัน ทำให้มั่นใจว่าสาเหตุเกิดจากตรงนี้”

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

รองนายกฯ ยอมรับด้วยว่า ยังไม่มีข้อมูลของบริษัท หรือกลุ่มทุนที่ไปลงทุนทำเหมืองถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามการเจรจากับเมียนมา จะเป็นเรื่องแรกที่ต้องดำเนินการก่อน เพราะพื้นที่อยู่ในเขตเมียนมา ควรต้องเจรจากับรัฐบาลในระดับนโยบาย 

พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว ที่ผ่านมาได้ทำงานเชิงรุก เช่น เสนอให้มีการขุดลอกแม่น้ำในฝั่งไทยทำไปแล้ว  ในฝั่งเมียนมาเสนอให้ทำโดยฝ่ายไทยสนับสนุนงบประมาณ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะการเจรจาในระดับนโยบาย ยังเป็นเรื่องสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างกัน โดยนำข้อมูลจากที่ฝ่ายเมียนมากับข้อมูลในฝ่ายไทยมาตัดสินใจร่วมกัน ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน

เมื่อถามว่า ในพื้นที่ทำเหมืองเป็นของกลุ่มว้า ที่มีเรื่องความเป็นสถานะของรัฐ จะมีทางไปพูดคุยได้หรือไม่ เพราะดูเหมือนว่ามีความพยายามเจรจาหลายครั้งแล้ว รองนายกฯ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ก็เจรจากันหลายระดับ ยังไม่พบอุปสรรค แต่ยังไงส่วนตัวคิดว่า ถ้าแจ้งไปทางการเมียนมา น่าจะไม่ขัดข้อง เพราะที่ผ่านมาก็มีความยินดีเจรจาอยู่แล้ว

มั่นใจเจรจา ยุติปัญหาที่ต้นตอ

รองนายกฯ ยังระบุด้วยว่า ต้นตอของปัญหาสรุปให้ตรงกับทางการเมียนมามาก่อนว่าเกิดจากเหมืองแร่หรือไม่ ? ให้ทางการเมียนมารับก่อน และกำหนดแนวทางแก้ไข ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นรุนแรง และมีระยะที่จะส่งผลต่อประเทศไทย มีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือ ว่า ก็ควรที่จะงด หรือยุติ หรือปรับปรุงในเรื่องของการทำเหมืองแร่หรือไม่อย่างไร ซึ่งก็เป็นหัวข้อในการเจรจา

“ข้อมูลที่ได้รับมีเหมืองแร่หลายแหล่ง ทางเมียนมายังเชื่อว่าการไหลเข้ามาในฝั่งไทย อาจจะมีแร่ที่มีค่าปนมาด้วยเหมือนกัน ย้ำว่า ตัวเองยังเชื่อมั่นในการเจรจาที่จะยุติ และไปแก้ที่ต้นตอของปัญหา”

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

เชื่อสร้างฝายลดผลกระทบได้

ส่วนกรณีที่จะแก้ปัญหาด้วยการสร้างฝายนั้น รองนายกฯ ระบุว่า ข้อมูลจาก สทนช. และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บอกว่า ระดับสารหนูช่วงรอยต่อชายแดนมีค่าสูง แต่หลังจากไหลมาถึงฝายเชียงรายเมื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำพบสารพิษลดต่ำลง ซึ่งประเมินว่า ถ้าสร้างฝายเก็บกักตะกอนน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งจะไปดูเรื่องของการลงทุน และระยะเวลา รวมถึงสำรวจความคุ้มค่าอีกครั้ง

รองนายกฯ ยังระบุถึง กรอบความร่วมมือมือ แม่โขง -ล้านช้าง, MRC, ทหาร และกรอบอื่น ๆ ซึ่งในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จะเจรจากันอีกครั้ง  อย่างไรก็ตามที่ประชุมเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามกรอบที่ได้กำหนดไว้ แต่เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนมีความกระชับและรวดเร็วยิ่งขึ้น การเจรจาในระดับนโยบายรัฐกับรัฐเป็นเรื่องสำคัญ ที่ประชุมก็มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการฯ เป็นหัวหน้าคณะเจรจา

“ตอนนี้ได้สั่งการกระทรวงการต่างประเทศ มีอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้เข้าร่วมประชุมด้วย และรับไปจะนัดหมายกำหนดหัวข้อประชุมและวันเวลาต่าง ๆ ย้ำว่าฝ่ายไทยพร้อมเจรจาแล้ว เหลือเพียงแค่กระทรวงการต่างประเทศ ส่งสัญญาณบอกรัฐบาลเมียนมาซึ่งก็ได้สั่งการไปแล้ว

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active