เปิดผลสำรวจพบ เด็กเยาวชน 89.13% เห็นด้วยไม่ขายไม่ดื่มในงาน สสส. จับมือ สคล. แนะเที่ยวงานลอยกระทงปลอดเหล้า เน้นวิถีวัฒนธรรม ลอยกระทงออนไลน์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ปลอดภัย สบายใจห่างไกลจาก’ปัจจัยเสี่ยง’
วันนี้ (26 พ.ย.2566) รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า รณรงค์ให้การจัดงานลอยกระทงปลอดเหล้าทั่วประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ในภาพรวมพบว่าคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมีความเข้าใจและตระหนักในเรื่องของปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะเหล้าเบียร์ ประทัดยักษ์ และโคมลอย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ จากผลการสำรวจนักท่องเที่ยวในงานลอยกระทงปี 2565 ใน 6 พื้นที่ ได้แก่ สุโขทัย เชียงใหม่ ตาก ร้อยเอ็ด มหาสารคาม อุดรธานี รวม 1,800 คน พบว่า นักท่องเที่ยว 82.30% เห็นด้วยกับการจัดงานลอยกระทงแบบปลอดเหล้า 81.30% พอใจกับการรณรงค์และการห้ามจำหน่ายเหล้าเบียร์ในบริเวณพื้นที่จัดงาน ขณะที่เด็กเยาวชน 89.13% เห็นว่าไม่ควรขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน
วิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า สคล. มีข้อแนะนำในการเลือกสถานที่ไปร่วมงานลอยกระทงปีนี้ 1.เลือกรีวิวและไปร่วมงานลอยกระทงที่จัดแบบย้อนยุค เน้นวิถีวัฒนธรรม 2.เลือกไปเที่ยวงานที่มีนโยบายคุมเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง ไม่ขายเหล้าประทัดยักษ์ หรือโคมลอยในงาน เพราะมีความปลอดภัยลดต้นเหตุไปสู่การทะเลาะวิวาท และลดอุบัติเหตุจากประทัด 3.ลอยกระทงออนไลน์ เพื่อลดปริมาณขยะในแม่น้ำ รักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถไปเที่ยวงานที่จัดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ให้เกิดการหมุนเวียน สร้างรายได้ให้คนในชุมชน ทั้งนี้พื้นที่จัดงานลอยกระทงทั่วประเทศกว่า 90% ปลอดจากเหล้าเบียร์แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทำงานง่ายขึ้นปัญหาเรื่องทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุในพื้นที่จัดงานลดลง การจัดงานก็มีการพัฒนาความสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ ๆ ทั้งกิจกรรมย้อนยุคและกิจกรรมร่วมสมัย ทำให้งานในหลายพื้นที่มีความน่าสนใจมากขึ้น
เสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 จากการปล่อยโคมลอย(ไฟ) แล้วตกลงสู่หลังคาบ้านเรือน ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านและความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินโดยเฉพาะในช่วงดึกที่ผู้คนหลับไปแล้วหรือบ้านที่ไม่มีคนอยู่ดูแล จึงได้ชวนกันเปลี่ยนการจัดงานเป็นผางประทีปส่องฟ้าฮักสาเมือง จุดประทีป 25,000 ดวงรอบคูเมือง และขยายไปสู่พื้นที่รอบนอก สำหรับงานลอยกระทงปีนี้เชียงใหม่มีงานตั้งแต่วันที่ 25-28 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 17.00 น. มีกิจกรรม จุดผางประทีป 4 แห่งคูเมือง มีการแสดงทางวัฒนธรรม ฟ้อนโคม แสดงดนตรีพื้นเมือง ศิลปะพื้นบ้านของเด็กๆ การประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา พิธีปล่อยกระทงสายล้านนา และการประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯ ทั้งนี้ มีสิ่งนี่น่ากังวลคือ การขยายการจุดโคมลอย(ไฟ)ไปสู่พื้นที่รอบนอก ที่อาจส่งผลกระทบเรื่องไฟไหม้จากโคมลอย ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมการจัดการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุ
ศิวะพร คงทรัพย์ ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จ.ตาก กล่าวว่า จ.ตากได้ขับเคลื่อนนโยบายการจัดงานบุญประเพณีปลอดเหล้า โดยเฉพาะในงานกระทงสายไหลประทีปซึ่งเป็นงานสำคัญของจังหวัด มีการทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้า สื่อสารให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้รับทราบ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาร่วมงาน จากที่เคยมีลานเบียร์มากถึง 33 ลานในปี 2556 ปัจจุบันไม่มีการขายการดื่มในพื้นที่จัดงาน งานมีความปลอดภัยมากขึ้นทุกปี ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะมีกิจกรรมตามพิธีกรรมความเชื่อพิธีขอขมาพระแม่คงคา(ถวายผ้าป่าน้ำ) พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน มีการแข่งกระทงสายในทุกค่ำคืน สาธิตการทำกระทงกะลา การอาบน้ำพระอุปคุต การประกวดลูกทุ่งกระทงสาย เทศกาลอาหาร ก่อนจะส่งท้ายด้วยกิจกรรมใส่บาตรพระอุปคุตเที่ยงคืน อาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ
พระครูสุมนธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดคลองกระทง ประชาคมงดเหล้า จ.สุโขทัย กล่าวว่า ภาคประชาสังคมได้ร่วมมือกับส่วนราชการ รณรงค์เอาจริงเอาจังร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่องมากว่า 16 ปี ส่งผลให้พฤติกรรมและค่านิยมทางสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไป จากการสำรวจพบว่านักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้าในงาน มีความพึงพอใจต่อการจัดงานลอยกระทงปลอดเหล้ามาก เพราะไม่มีเหตุทะเลาะวิวาท ทำให้ภาพรวมของงานมีความปลอดภัยคนมาเที่ยวชมงานมีความสุข สมกับเป็นงานระดับโลก โดยในปีนี้จะมีการแสดงแสงเสียงเมืองมรดกโลกสุโขทัย ขบวนช้างยุทธหัตถี การละเล่นพลุตะไลไฟพะเนียง การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ มีตลาดโบราณตลาดแลกเบี้ย ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม กระทงใหญ่ โคมชักโคมแขวนจาก 4 ปากประตูเมืองสุโขทัย นอกจากนี้ผลของการจัดงานที่ปลอดภัยยังขยายแนวคิดไปสู่งานลอยกระทงระดับชุมชนที่บ้านแม่ทุเลา อ.ทุ่งเสลี่ยม และกลายเป็นต้นแบบพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนปลอดเหล้าปลอดภัย อีกด้วย