หวั่น ผู้ป่วยเอดส์ไร้ญาติ ‘วัดพระบาทน้ำพุ’ ไม่มีที่ไป! เจอข้อจำกัดรับดูแลต่อ เสี่ยงขัดกฎหมาย พม.

จัดพิธีเผา 8 ร่างผู้เสียชีวิต หลังถูกดองไว้นานกว่า 20 ปี ขณะที่ สธ. – ผู้ว่าฯ ลพบุรี ยันหาแนวทางช่วยเหลือ ไม่ทอดทิ้งผู้ป่วยในวัด เล็งจัดหาที่ดูแลให้เหมาะสม ย้ำ สถานะการเงินวัดไม่สู้ดี จำเป็นต้องย้ายผู้ป่วยออกทั้งหมดภายในเดือนนี้

วันนี้ (1 ก.ย. 68) วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จัดพิธีฌาปนกิจร่างผู้เสียชีวิต 8 ร่าง หลังได้รับการยืนยันอัตลักษณ์ตัวตนเรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งดำเนินการฌาปนกิจ ไปยัง 4 วัดในพื้นที่ ต.เขาสามยอด ได้แก่ วัดพระบาทน้ำพุ, วัดสระมะเกลือ, วัดน้ำจั้น และวัดดงสวอง วัดละ 2 ร่าง รวมทั้งสิ้น 8 ร่าง

สำหรับร่างผู้เสียชีวิตอีก 21 ร่าง แบ่งเป็นที่ วัดพระบาทน้ำพุ 12 ร่าง และที่โครงการธรรมรักษ์ แห่งที่ 2 อีก 9 ร่าง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอัตลักษณ์โดยละเอียด เพื่อรอการยืนยันจากญาติ ก่อนดำเนินการฌาปนกิจต่อไป

นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ป่วยเอดส์ ที่รักษาตัว ภายในวัดพระบาทน้ำพุ และที่โครงการธรรมรักษ์ แห่งที่ 2 ต.ดงดินแดง อ.หนองม่วง มีจำนวน 200 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เกือบ 20 คน หลังจากนี้จะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มนี้ นำไปรักษาที่กระทรวงสาธารณสุขต่อไป

ส่วนผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ส่วนของพระสงฆ์ที่บวชอยู่ได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดูว่ามีส่วนไหนรับดูแลได้บ้างเนื่องจากยังบวชอยู่ เว้นแต่จะสึกออกมา และอีกกลุ่มที่เป็นผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องที่พัก และยังไม่มีสถานที่พักพิง

ทั้งนี้ จะต้องมีการพิจารณาเงื่อนไข ด้านข้อกฎหมาย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า จะสามารถรับไปดูแลต่อได้หรือไม่ แต่ย้ำว่าด้วยสถานะทางการเงินภายในเวลานี้ จำเป็นที่จะต้องย้ายผู้ป่วยทั้งหมดออกภายในเดือนนี้

“มีข้อจำกัดของกระทรวง พม. ที่ไม่สามารถรับผู้ป่วย 5 โรคติดต่อร้ายแรงได้ ซึ่งจะรับไปดูแลก็ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ทำได้ คงต้องฝากไปลองพิจารณาดูก่อนในส่วนของ พม. หรืออีกทางหนึ่งต้องพึ่งภาคเอกชนที่ทรายว่ามีหลายกลุ่มดูแลอยู่”

นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์

หาแนวทางย้ายผู้ป่วยเอดส์-ระยะท้าย 3 ก.ย. นี้

อำพล อังคณากรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี บอกว่า สำหรับคนป่วยที่อยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ มีกลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV ที่ต้องรีบในการดูแลเป็นพิเศษ คือ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10-11 คน โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช, โรงพยาบาลบ้านหมี่, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับผู้ป่วยป่วยกลุ่มนี้ไปดูแล

ส่วนผู้ติดเชื้อ HIV ที่ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเนื่องจากได้รับยาต้านไวรัส ส่วนที่มีญาติมารับไปดูแลทางจังหวัดจะรับผิดชอบจัดหาพาหนะไปส่ง ส่วนคนที่ครอบครัวไม่ยอมรับ หรือไม่มีครอบครัว ทางจังหวัดจะประสาน พม. ช่วยแบ่งเบาภาระหรือรับไปดูแลบางส่วน

อำพล อังคณากรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี

สำหรับความยากง่ายในการพูดคุยกับผู้ป่วย สัปดาห์ที่ผ่านมาทางจังหวัดลพบุรีขอความร่วมมือสาธารณสุขจังหวัด ส่งคณะแพทย์ที่ทำงานด้านจิตเวช รวมถึงเจ้าหน้าที่ พม. ลงพื้นที่พบปะพูดคุยทำความเข้าใจในเบื้องต้น ขณะเดียวกันขอทราบความประสงค์ว่าถ้าถึงที่สุดแล้วการดำเนินการของวัดไม่สามารถจะไปต่อได้ ผู้ติดเชื้อ HIV ประสงค์จะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร ได้สอบถามไปแล้วเมื่อวันศุกร์ และจังหวัดก็จะประชุมหารือในวันพุธที่ 3 ก.ย.68

สำหรับเบื้องต้นสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้จัดสรรงบประมาณก้อนหนึ่งในการจัดหลักสูตรอบรมให้ผู้ติดเชื้อ HIV ที่ยังสามารถทำงานได้ และมีความรู้เรื่องการอภิบาลคนป่วยโรคเอดส์ ด้วยคาดหวังว่าเมื่อออกไปยังสถานสงเคราะห์ของรัฐ เอกชน หรือกลับไปยังภูมิลำเนาของตัวเองจะมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เผื่อมีโอกาสจะต้องดูแลใครต่อไปจะได้มีช่องทาง ขณะเดียวกันเมื่อส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ จะประสานไปยังจังหวัดนั้นๆ ช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษ พร้อมย้ำว่าเป็นการถามความสมัครใจทั้งตัวผู้ติดเชื้อ และครอบครัว

มองปม แก้ปัญหามูลนิธิฯ

ส่วนเรื่องของมูลนิธิฯ นั้น ผู้ว่าฯ ลพบุรี ระบุว่า การจดทะเบียนจดแจ้งเป็นมูลนิธิเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ประกอบกับกฎกระทรวงที่ออกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งสาระสำคัญคือการจัดตั้งมูลนิธิเป็นเรื่องของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการที่จะเสียสละทรัพย์เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณะด้านต่างๆ สามารถที่จะยื่นต่อนายทะเบียนจังหวัด ซึ่งคือผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ โดยกำหนดวัตถุประสงค์ว่ามูลนิธิจะทำอะไร และกำหนดตัวกรรมการผู้รับผิดชอบมูลนิธิ ซึ่งในทางกฎหมายแล้วกำหนดให้มูลนิธิทุกแห่งจะต้องรายงานการดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมาปีละ 1 ครั้งในเดือน มี.ค.ของทุกปี ซึ่งสาระสำคัญดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงกรรมการมูลนิธิ จากทั้งหมดหรือบางส่วน
  • ผลการดำเนินการทางการเงิน การบัญชีที่ผ่านการรับรองงบดุลจากผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตต้องรายงาน
  • รายงานการประชุมในปีที่ผ่านมาทุกครั้ง

มีเพียง 3 เรื่องนี้ที่ทางกฎหมายกำหนดให้รายงานนายทะเบียนมูลนิธิฯ หากนายทะเบียนไม่ได้รับการร้องเรียน หรือข้อสงสัย ก็ไม่มีเหตุที่จะไปจัดการซึ่งจะกลายเป็นเหมือนไปก้าวล่วงเสรีภาพของประชาชน

แต่ถ้าวันนี้ความปรากฏชัดเจนว่า มีความไม่โปร่งใส ทางจังหวัดลพบรีไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่ 13-14 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้นายอำเภอ 3 อำเภอที่เป็นที่ตั้งของมูลนิธิทั้ง 5 แห่ง ลงไปสำรวจข้อมูลเบื้องต้นให้รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบมีประเด็นที่ยังสงสัยว่าน่าจะมีการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้นจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 ชุดเพื่อสอบงบฯ ดุล เส้นทางเงิน และการประกอบการดำเนินการ

“หากความปรากฏว่าการดำเนินการของมูลนิธิเป็นโดยไปโดยฝ่าฝืนกฎหมายของบ้านเมืองหรือการกระทำใดก็ตามที่เป็นการกระทบต่อความมั่นคงหรือศีลธรรมอันดีของพี่น้องประชาชนเป็นเหตุที่นายทะเบียนจะสามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอให้ยกเลิกมูลนิธิได้”

อำพล อังคณากรกุล

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active