ธนาคารจิตอาสา แนะ 4 วิธีดูแลใจคนทำงาน จี้ รัฐมองเกมยาว วางแผนเยียวยาจิตใจจากความสูญเสียแก่ทุกฝ่าย หลังวิฤตมหาอุทกภัยภาคใต้ 2568
จากสถานการณ์ วิฤตมหาอุทกภัยภาคใต้ 2568 ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก อีกทั้งไม่ได้มีแค่ทางร่างกายหรือทรัพย์สิน แต่ยังรวมไปถึงผลกระทบทางด้านจิตใจที่เเป็นเรื่องซึ่งไม่อาจละเลย
อีกทั้งไม่ใช่แต่เพียงผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงสภาพจิตใจของทีมอาสาสมัครที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งในพื้นที่ และอาสาสมัครที่รับสายโทรศัพท์ประสานงานให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (26 พ.ย.68) สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา เปิดเผยกับ The Active ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ตอนนี้ เป็นภัยพิบัติที่สร้างความรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง นอกจากความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นแล้ว บาดแผลทางจิตใจจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทิ้งร่องรอยไว้อีกยาวนาน

ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา
นอกจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว “อาสาสมัคร” ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจไม่น้อยไปกว่ากัน สรยุทธ แนะนำ 4 วิธี ในการดูแลจิตใจของผู้ที่ทำหน้าที่รับฟังและประสานความช่วยเหลือ ได้แก่
- หันกลับมาเท่าทันตนเอง
- ลดสิ่งเร้าจากการเสพข้อมูล
- พาตนเองออกมาจากสถานการณ์เป็นระยะ
- ขอความช่วยเหลือ
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ เหล่าอาสาสมัครต้องเท่าทันความรู้สึกตัวเอง หากจิตใจไม่ไหว แต่ปากบอกไหว สุดท้ายจะไปต่อไม่ได้ หากเหล่าอาสาฯ ดูแลตัวเองให้ดี ก็จะมีพลังในการดูแลคนอื่น” สรยุทธอธิบายสำหรับอาสาสมัครที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ยาวนานต่อเนื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สรยุทธ แนะนำว่า ขอให้พยายามลดสิ่งเร้าที่จะกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึก เช่น การเสพข่าวดราม่าที่จะยิ่งตอกย้ำความรู้สึกเชิงลบ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ “การพักเบรคเป็นระยะ” เช่น พักดื่มน้ำ หรือออกมาเดินเล่น โดยขอให้ระหว่างพัก ต้องเป็นการพักอย่างแท้จริง ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และความคิด
“การกลับมาอยู่กับฐานกาย เป็นวิธีพื้นฐานหนึ่งในการพักที่ดีที่สุด เพราะสมองจะได้พักจากความคิดที่วนเวียน ช่วยให้สงบ และลดความเครียด …และหากยังรู้สึกหดหู่ใจ หรือไปต่อไม่ได้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน อาจเป็นการหาพื้นที่ระบาย หรือใครสักคนคอยรับฟัง
“คนทำงานอาสาสมัคร ต้องรับฟังเรื่องราวและแบกรับความทุกข์ของผู้อื่น ทำให้รู้สึกเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ การหาใครอีกสักคนคอยรับฟังเรื่องราวที่กดทับในใจจะสามารถแบ่งเบาความรู้สึกออกไปได้ แม้การรับฟังดูเป็นเรื่องเบสิคแต่กลับทรงพลังมากกว่าที่คิด ความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ในใจ จะเบาบางลงได้เพียงแค่มีใครสักคนรับฟัง”
จี้รัฐ มองเกมยาวหลังน้ำลด เร่งหาทางเยียวยาจิตใจ
เมื่อถามถึง ความช่วยเหลือของภาครัฐต่องานอาสาสมัครในสถานการณ์ตอนนี้ สรยุทธ ย้ำว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังคงถือว่าวิกฤต ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อรักษาชีวิตและสุขภาพทางกายของผู้คนก่อน แต่หลังจากนี้ จะเกิดผลกระทบระยะยาวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะวิกฤตทางใจ
หลายคนสูญเสียญาติพี่น้อง สัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินเงินทองที่สร้างมาทั้งชีวิต รัฐต้องมองเกมยาว นอกจากเยียวยาประชาชนทางกายภาพแล้ว ต้องวางแผนเยียวยาจิตใจด้วย
“เพราะวิกฤตในครั้งนี้ไม่ได้เป็นคนชาวใต้เท่านั้น แต่เป็นวิกฤตร่วมกันของคนทั้งชาติ และใหญ่เกินกว่าที่รัฐบาลจะรับไหว หากรัฐบาลมีมุมมองที่แคบ คิดว่าเอาอยู่ จะไปต่อไม่ได้และประชาชนจะยิ่งได้รับผลกระทบ เพราะนี่กำลังเป็นภารกิจของคนทั้งประเทศ”
สรยุทธ ทิ้งท้าย
