คุยประชาชน 4 จังหวัดนำร่องพอใจ พร้อมเดินหน้าอีก 8 จังหวัด จัดบริการไร้รอยต่อ ยกระดับด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล เผย ‘เศรษฐา’ คิกออฟ เฟส 2 อย่างเป็นทางการ 30 มี.ค.นี้ ที่โคราช หวังสิ้นปีครอบคลุมทั่วประเทศ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงความพร้อมการขับเคลื่อน “นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2” ระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมาเร่งรัดดำเนินการทันที โดยคิกออฟระยะแรกไปเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่, เพชรบุรี, ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ขณะนี้ผ่านมาประมาณ 2 เดือน พบว่า ประชาชนให้การตอบรับดีมาก เนื่องจากเข้ารับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้สะดวก รวดเร็ว และใกล้บ้าน ลดระยะเวลาในการรอคอย จากการลงทะเบียนยืนยันตัวตนผู้รับบริการ (Health ID) และมีการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) ทำให้เรียกดูประวัติการรักษาได้ทุกสถานบริการ อีกทั้งมีระบบบริการดิจิทัล ทั้งการออกใบรับรองแพทย์ การนัดหมายออนไลน์ การแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล รวมถึงจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงบ้านผ่าน Health Rider ไม่ต้องรอรับยาที่โรงพยาบาล
โดยผลสำรวจความพึงพอใจการรับบริการ Health Rider ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2567 พบว่า ภาพรวมพึงพอใจสูงถึง 99.6% แบ่งเป็น ด้านความรวดเร็ว 99.2% ด้านเจ้าหน้าที่ส่งยา 99.5% ความสมบูรณ์ของพัสดุ 100% ความมีประโยชน์ 99.8% และช่วยลดระยะเวลารอคอย 99.5%
“ส่วนข้อกังวลเรื่องผู้ป่วยจะเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ จากข้อมูลพบว่าเพิ่มขึ้นเพียง 8.7% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก การใช้บริการข้ามพื้นที่เพิ่มประมาณ 6.9% บางแห่งไม่เกิน 5% ไม่มีผลกระทบต่อภาระงานและบุคลากร ขณะที่การเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ 49 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม – 1 มีนาคม 2567 มียอดเรียกเก็บรวม 624,437,769.19 บาท จาก 545,283 ราย”
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
นพ.ชลน่าน ยังระบุถึง การเดินหน้ายกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา ขณะนี้ มีความพร้อม 100% โดยได้เชื่อมโยงข้อมูล PHR ของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพแล้ว ภาพรวม 8 จังหวัด มีประชาชนลงทะเบียน Health ID แล้ว มากกว่า 2 ล้านคน จ.พังงา ลงทะเบียนสูงสุดเกือบ 50% บุคลากรทางการแพทย์ยืนยันตัวตน Provider ID แล้ว 3.9 หมื่นคน โดยนครราชสีมาและสระแก้ว ยืนยันมากกว่า 90% มีการให้บริการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล การแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล ครบทั้ง 8 จังหวัด จัดส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่าน Health Rider แล้ว 62 แห่ง ใน 6 จังหวัด คิดเป็น 64.6% รวม 1,719 ออเดอร์ โดยสระแก้วและพังงาอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนบริการนัดหมายออนไลน์ผ่านหมอพร้อมอยู่ระหว่างดำเนินการให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาล
สำหรับเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้ประเมินความเสี่ยงของโรงพยาบาลในระยะที่ 2 ทั้ง 96 แห่ง เพื่อยกระดับการป้องกันและสร้างความปลอดภัย โดยมีการอัปเกรดคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการของโรงพยาบาล ให้รองรับระบบการให้บริการใหม่ เพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งบุคลากรและประชาชน รวมทั้งมอบหมายให้ สปสช.เร่งทำข้อสรุปหลักเกณฑ์และกระบวนการเบิกจ่าย การยืนยันตัวตน การเปิดสิทธิ์ ปิดสิทธิ์ ให้มีความชัดเจน เพื่อให้หน่วยบริการภาคเอกชนมั่นใจและเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานคิกออฟ ระยะที่ 2 อย่างเป็นทางการ ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ และในเดือนพฤษภาคม จะเพิ่ม 20 จังหวัด จากนั้นขยายครอบคลุมทั้งประเทศ ภายในปี 2567 นี้