ย้ำ ผู้ป่วยระยะท้าย ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง เข้ารับบริการ ‘สถานชีวาภิบาล’ ในระบบ สปสช. ครอบคลุมทุกสิทธิรักษาพยาบาล
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 68 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) บอกว่า สปสช. ให้ความสำคัญต่อการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง โดยได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสถานชีวาภิบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่เร่งดำเนินการด้านสาธารณสุขของรัฐบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) พร้อมให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยภายใต้สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ที่ผ่านมาจึงได้ดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียง บริการผู้ป่วยแบบประคับประคองและระยะท้าย ร่วมขึ้นทะเบียนเป็น “หน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านสถานชีวาภิบาล ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545”

ทั้งนี้ จากที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบันมีหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ อาทิ องค์กรศาสนา องค์กรที่ไม่แสวงกำไร ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ (ศพส.) และสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุ ได้สมัครขึ้นทะเบียนเป็นสถานชีวาภิบาลกับ สปสช. แล้วเป็นจำนวน 38 แห่ง โดยกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ และได้ให้บริการผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายแล้วตามประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน พ.ศ. 2567
รมว.สาธารณสุข บอกด้วยว่า ผู้มีสิทธิรับบริการในสถานชีวาภิบาลคือเป็นประชาชนไทย ไม่จำกัดสิทธิการรักษาพยาบาล โดยเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการประเมินระดับความสามารถในการดำเนินกิจวัตรประจำวันตามดัชนีบาร์เธลเอดีแอล (Barthel ADL index) เท่ากับหรือน้อยกว่า 11 คะแนน หรือเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ได้รับการประเมินระดับผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบประคับประคอง (Paliative Performance Scale ; PPS) เท่ากับหรือน้อยกว่า 50% หรือเป็นผู้ป่วยสมองเสื่อมตามการประเมินระยะของภาวะสมองเสื่อม ทั้งระยะปานกลาง ระยะรุนแรงปานกลาง หรือระยะรุนแรง เป็นต้น


ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ บอกว่า ช่องทางในการเข้ารับบริการนั้น ประชาชนสามารถติดต่อผ่าน สายด่วน สปสช. 1330 หรือสอบถามข้อมูลจาก สปสช. เขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต เพื่อให้ประสานไปยังสถานชีวาภิบาลที่มีความประสงค์เข้ารับบริการ หรือ ติดต่อที่สถานชีวาภิบาล โดยตรงเพื่อเข้ารับบริการ และกรณีที่รักษาตัวในโรงพยาบาล สามารถแจ้งความประสงค์ต่อโรงพยาบาล เพื่อขอเข้ารับบริการที่สถานชีวาภิบาลในพื้นที่ได้
เลขาธิการ สปสช. บอกอีกว่า สถานชีวาภิบาลเป็นบริการที่มุ่งเน้นในการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดี ไม่เพียงแต่ทางกาย แต่สถานชีวาภิบาลหลายแห่งยังให้การเยียวยาในด้านจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยระยะท้าย
เช็ครายชื่อ สถานชีวาภิบาล ที่นี่