เผย โรงพยาบาลรัฐ ค้างชำระค่าบริการ กว่า 30 ล้านบาท หวั่นกระทบการเข้าถึงบริการตรวจ ยาป้องกัน ด้าน ‘สมศักดิ์’ รับลูก สั่งเร่งแก้ระเบียบ นัดถกอธิบดีกรมควบคุมโรค ภายใน 3 วัน
วันนี้ (9 เม.ย. 68) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนด้านเอชไอวี เข้าพบ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหางบประมาณที่ถูกตัดจาก USAID และปัญหาค้างชำระค่าบริการจากโรงพยาบาลรัฐ รวมเป็นวงเงินกว่า 30 ล้านบาท

สุภาพร เพ็งโนนยาง ผู้แทนจากสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี บอกว่า ภาคประชาสังคมกำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก ทั้งจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดงบประมาณสนับสนุนโครงการเอชไอวี และจากการที่งบประมาณภายในประเทศที่ควรได้รับจากโรงพยาบาลรัฐก็ยังไม่ได้รับคืน ทั้งที่ได้ร่วมให้บริการกับรัฐมาแล้วกว่า 2 ปี
“ตอนนี้ติดค้างกันอยู่กว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบฯ จาก สปสช. ที่จ่ายผ่านโรงพยาบาล แต่ระเบียบภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถคืนงบฯ ให้ภาคประชาสังคมได้ ทั้งที่เคยมีข้อตกลงร่วมกันชัดเจน”
สุภาพร เพ็งโนนยาง
เครือข่ายด้านเอชไอวี ยังย้ำว่า หากไม่รีบแก้ไขจะกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินงานด้านเอชไอวีของประเทศ เพราะภาคประชาสังคมมีบทบาทสำคัญถึง 85% ในการเข้าถึงการตรวจเอชไอวี และ 65% ในการแจกจ่ายยาป้องกัน
ขณะที่ สุรางค์ จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการ SWING Thailand ย้ำว่า งบประมาณจากภาคประชาสังคม ถูกรวมไปอยู่กับงบฯ ของโรงพยาบาลรัฐทั้งหมด ตามข้อตกลงการให้บริการร่วมกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยได้รับการชำระคืน แม้จะดำเนินการให้บริการไปแล้วในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ
“ภาคประชาสังคมเป็นกำลังหลักของประเทศในการผลักดันงานด้านเอชไอวี ถ้าไม่มีงบฯ ก็อาจต้องหยุดดำเนินการ เราจึงอยากให้รัฐเร่งพิจารณาแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน”
สุรางค์ จันทร์แย้ม
ด้าน รมว.กระทรวงสาธารณสุข รับเรื่องร้องเรียนไว้ พร้อมระบุว่า ตนเพิ่งทราบรายละเอียดจากภาคประชาสังคม และจะเร่งดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที โดยได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับ นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ทันที เพื่อสอบถามถึงข้อจำกัดของระเบียบการเงินที่ทำให้ไม่สามารถคืนงบฯ ให้ภาคประชาสังคมได้
“ถ้าจำเป็นต้องแก้ระเบียบกระทรวงฯ ผมยินดีลงนามอนุมัติให้โดยเร็ว” สมศักดิ์ ระบุกับอธิบดีกรมควบคุมโรคระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ พร้อมนัดหมายหารือร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 11 เม.ย. นี้ เพื่อหาข้อยุติภายใน 3 วัน