‘สมศักดิ์’ ยืนยัน บริการต่อเนื่อง นโยบายไม่สะดุด แม้มีคดีพิพาทในศาลปกครอง ระหว่าง สปสช. – แพทยสภา กรณีร้านยาจ่ายยา 32 อาการ รับสภาพสิทธิประกันสังคมยังเหลื่อมล้ำ เร่งผลักดันให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิ์เทียบเท่าบัตรทอง พร้อมนำ AI ช่วยประเมินอาการ
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 68 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านยาดรักเฮ้าส์ โครงการสุโขทัยอเวนิว 99 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่

ทั้งนี้พบว่า หลังดำเนินโครงการมา 2 ปี มีร้านยาเข้าร่วมประมาณ 6,000 แห่งทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องราว 3,000 แห่ง มีประชาชนมาใช้บริการสะสม 8.7 ล้านครั้ง โดย สมศักดิ์ ยอมรับว่า ยังน้อยเมื่อเทียบกับศักยภาพ
“หากพี่น้องประชาชนเห็นสติ๊กเกอร์ 30 บาทรักษาทุกที่ในร้านขายยา สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลยโดยใช้บัตรประชาชน ขอรับยาจากเภสัชกรที่ดูแลเบื้องต้น 32 อาการ รับยาได้ฟรีเพราะ สปสช. จะเป็นผู้จ่าย โดยขอเชิญชวนประชาชนที่มีอาการป่วยเล็กน้อยใช้บริการเพื่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
ขณะที่ ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของโครงการมาจากช่วงโควิด-19 ที่ร้านยามีบทบาทสำคัญในการคัดกรองผู้ป่วยและแจกชุดตรวจ ATK ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. กับภาคเภสัชกรรม
จากการรวบรวมข้อมูล พบว่า 5 กลุ่มอาการที่ประชาชนมาใช้บริการบ่อยที่สุด ได้แก่ ไข้/ไอ/เจ็บคอ (42%), ปวดกล้ามเนื้อและข้อ (21%), ผื่น/คันตามผิวหนัง (19%), คัดจมูก/น้ำมูกไหล (10%) และปวดท้อง (9%)
นอกจากบริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ร้านยาคุณภาพยังมีบทบาทในโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยทุกสิทธิการรักษา (บัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ ฯลฯ) สามารถเข้ารับบริการได้ เช่น
- ชุดตรวจ HIV แบบตรวจเองที่บ้าน
- รับยาคุมกำเนิด
- ยาคุมฉุกเฉิน (ปีละ 2 ครั้ง)
- รับถุงยางอนามัย (ครั้งละ 10 ชิ้น)
- ชุดตรวจการตั้งครรภ์
- ยาบำรุงครรภ์ 52 สัปดาห์
- ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูก
- ชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับจากปัสสาวะ
ล่าสุดมีการนำระบบ AI มาช่วยในการประเมินอาการและบันทึกข้อมูลการรักษา
“เวลาผู้ป่วยเข้ามา บางทีมีอาการหลายอย่าง พูดคุยกันหลากหลาย ระบบ AI จะช่วยสรุปให้ว่าผู้ป่วยพูดถึงอาการอะไรบ้าง เราก็จะดูจากข้อมูลนั้นแล้วจ่ายยา พร้อมเก็บบันทึกการพูดคุยไว้ด้วย”
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช
เมื่อถามว่า ยังมีข้อพิพาทระหว่างแพทยสภา กับ สปสช. กรณีการขยายบริการร้านยาเป็น 32 อาการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาลปกครอง รมว.สธ. ยืนยันว่า โครงการยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติ ขณะที่นายกสภาเภสัชกรรม ย้ำว่า บริการมีความปลอดภัย โดย 95% ของผู้ใช้บริการมีอาการดีขึ้น และอีก 5% ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาล
ส่วนผู้ประกันตน สิทธิประกันสังคมจะใช้ด้วยได้หรือไม่ รมว.สธ. บอกว่า รับไว้แล้ว ถ้าฝ่ายบริหารเจรจากันได้ ก็ยินดีสนับสนุน ไม่มีปัญหา
“คุณ (ผู้สื่อข่าว) ก็ช่วยดันหน่อย เห็นว่ามีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ผมก็อยากทราบว่าตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เพราะประชาชนที่เป็นผู้ประกันตนก็รออยู่ อยากให้สามารถใช้บริการร้านยาได้เหมือนสิทธิอื่น ๆ”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ระบุด้วยว่า จะคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะไปครั้งก่อน เชื่อว่าทิศทางน่าจะตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนได้มากขึ้น รับปากจะนำเข้าที่ประชุม เพื่อไม่ให้เกิดการเหลื่อมล้ำ เพราะสิทธิประกันสังคมเป็นสิทธิที่ต้องเข้าถึงได้ เช่นกัน