เล็งตั้ง ‘มินิคลินิก’ นำร่อง กทม. รับมือโรค NCDs เสริมระบบ ลดภาระ รพ.

พร้อมยันปีนี้ ปีหน้า ไม่มีร่วมจ่ายแน่นอน ถกปมสุ่มตรวจเวชระเบียน สปสช. ชี้ต้องพูดคุย อย่าปรับงบฯ ปุ๊บปั๊บ โต้เสียงวิจารณ์นับคาร์บแค่ตัวเลข ชี้ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม สร้าง “ลัทธิเอาอย่าง”

ในที่ประชุมวิชาการพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านสังคม กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2568 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความท้าทายของระบบสุขภาพในอนาคต โดยระบุว่า การป้องกัน คือแนวทางสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพราะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยและลดภาระงบประมาณได้ในระยะยาว พร้อมย้ำถึงการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ “ทัพพีมาตรฐาน” ควบคุมการบริโภค ซึ่งขณะนี้เข้าถึงประชาชนแล้วกว่า 40 ล้านคน

“กิจกรรมนี้ไม่ได้ทำเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น แต่หน่วยงานรัฐหลายแห่งให้ความร่วมมือ นำไปใช้จริงและได้ผลดี ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข

นอกจากแนวทางเชิงป้องกัน กระทรวงยังเตรียมยกระดับระบบบริการผ่านโครงข่ายดิจิทัลครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างชาติที่ยังไม่มีการลงทะเบียนในระบบสาธารณสุขครบถ้วน

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น สมศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีให้เร่งจัดตั้ง มินิคลินิก ในลักษณะคล้าย ตู้ห่วงใย แต่มีศักยภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีอย่างน้อย 10 – 20 แห่งต่อเขต เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนในเขตเมือง

“คลินิกเหล่านี้จะเน้นดูแลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งคิดเป็นกว่า 76% ของผู้ป่วยนอกทั้งหมด หากจัดการได้ จะลดภาระโรงพยาบาลได้มาก”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

ไม่ปิดประตูร่วมจ่าย แต่ย้ำ “ปีนี้-ปีหน้าไม่มีแน่นอน”

เมื่อถูกถามถึงข้อเสนอให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ร่วมจ่ายในระบบบัตรทอง จากเวทีรับฟังความเห็น (ร่าง) ประกาศการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2569 สมศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ และขอให้หลีกเลี่ยงการพูดถึงในช่วงเวลานี้ แต่ยอมรับว่าเวทีสัมมนาสามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นได้ โดยย้ำว่าในปีงบประมาณนี้และปีหน้าจะไม่มีการร่วมจ่ายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แนวทางหนึ่งที่กระทรวงเตรียมเดินหน้าคือ พรีเมียมคลินิก ในโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งจะให้บริการแบบพิเศษกับประชาชนที่มีกำลังจ่าย และนำรายได้ส่วนเกินกลับมาเสริมระบบหลักประกันสุขภาพ

“ศิริราชทำพรีเมียมคลินิกแล้วมีกำไร เรากำลังสำรวจโรงพยาบาลอื่นๆ ที่พร้อมดำเนินการ เพื่อยกระดับบริการโดยไม่กระทบประชาชนที่มีรายได้น้อย”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

ปม ‘สุ่มตรวจเวชระเบียน’ ยังต้องหารือร่วมกัน

ในประเด็นข้อกังวลของโรงพยาบาลที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายสุ่มตรวจเวชระเบียน 3% ของ สปสช. โดยเกรงว่าจะส่งผลต่อการเบิกจ่าย รัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง

“การตรวจแบบสุ่ม 3% แล้วนำไปใช้ตัดงบทั้งหมด อาจไม่เหมาะสม ต้องจัดเวลาให้เหมาะสม ทำความเข้าใจให้ตรงกัน ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บตรวจแล้วลดงบเลย เพราะจะทำให้เกิดความโกลาหล”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

ยัน ‘นับคาร์บ’ จำเป็นช่วยลด NCDs ยันไม่ใช่แค่ตัวเลข

เมื่อถามถึง โครงการนับคาร์บ ที่รัฐมนตรีฯ เน้นเรื่องนี้มาก ๆ แต่คนหน้างาน อย่างอสม. – หมออนามัย บอกว่านับแค่ตัวเลขอย่างเดียว ชาวบ้านไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรม นับแล้วก็จบหรือไม่ สมศักดิ์ บอกว่า นับเข้าใจแล้วก็ต้องช่วยกัน หมอ พยาบาล ก็ต้องช่วยกันพูด ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ เพราะเรื่องนี้เราบอกแล้วว่า ถ้าเอานายแพทย์ออกไปรณรงค์ ก็ไม่มีคนทำงานในโรงพยาบาล เพราะว่า 24% ของโรค เป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน เพราะฉะนั้นมันสำคัญ ต้องมีคนทำงาน คนช่วยรณรงค์

แพทย์ไม่สามารถออกไปรณรงค์ได้หมด เพราะต้องทำงานด้านอื่นด้วย พยาบาล หรือ อสม. ต่าง ๆ ต้องมาช่วยกัน ต้องตระหนักรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญ

“ผมเชื่อมั่นว่า ในหมู่บ้านหนึ่ง ถ้ามีคนที่ได้รับผลดีจากการนับคาร์บแล้วเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น เดี๋ยวก็จะเอาอย่างกันทั้งหมด เคยได้ยินมั้ย ? ลัทธิเอาอย่าง คือ สิ่งที่ดี ถ้ามีคนหนึ่งทำให้เห็นผล คนอื่นก็จะทำตาม เหมือนผมทุกวันนี้ ที่ผมอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะผมบริโภคอาหาร ตามสัดส่วนของร่างกาย”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active