‘สมบูรณ์ คำแหง’ นั่งประธาน กป.อพช. คนใหม่

สมัชชา กป.อพช. ระดับชาติ เลือก “บังแกน” สมบูรณ์ คำแหง เป็นประธาน ชี้ เอ็นจีโอต้องมีบทบาทนำในสังคมชัดเจนขึ้น ร่วมจัดสมดุลอำนาจใหม่ สร้างสังคมให้เท่าเทียมและเป็นธรรม ด้าน ‘อารัติ แสงอุบล’ เอ็นจีโออีสาน เป็นเลขาธิการ

วันนี้ (5 ส.ค. 2565) ที่ประชุมสมัชชาคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ระดับชาติ (กป.อพช.) มีการประชุมลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธาน เลขาธิการ และคณะกรรมการชุดใหม่ โดยผลการลงคะแนนปรากฏว่า สมบูรณ์ คำแหง หรือ “บังแกน” ได้รับเลือกเป็นประธาน มีคะแนนมากกว่า จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ด้วยคะแนน 36 ต่อ 22 คะแนน ขณะที่ อารัติ แสงอุบล ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ กป.อพช. โดยก่อนหน้านี้เป็น เลขาธิการ กป.อพช.อีสาน มาก่อน

ช่วงหนึ่งระหว่างการแนะนำตัวผู้สมัคร สมบูรณ์ ระบุว่า ตนทำงานด้านองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ NGO มาตั้งแต่ปี 2538 ยืนยันว่าเป็นมาตลอด สิ่งสำคัญที่สุด คือ ไม่ทิ้งขบวน ไม่ทิ้งความเป็นเอ็นจีโอ และเห็นความเอาจริงเอาจังของการประชุมฯ ครั้งนี้ ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่งนี้ ตนคิดว่าเอ็นจีโอต้องมีบทบาทนำในสังคมที่ชัดเจนขึ้น จัดสมดุลอำนาจใหม่ สร้างสังคมให้เท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ภายใต้เวลาการทำงานที่จำกัด 2 ปีหลังจากนี้ น่าจะเป็นช่องทางและโอกาส ที่จะทำให้มีการจัดสมดุลอำนาจใหม่ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน

เขาบอกอีกว่า การเคลื่อนไหวเชิงประเด็นเป็นอีกปรากฏการณ์ที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้พี่น้องและชาวบ้านในพื้นที่เชื่อมกับการเคลื่อนไหวเชิงโครงสร้างได้ ซึ่งควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะประเด็นของชาวบ้านจะไม่สามารถทะลุไปสู่การแก้ปัญหาได้ ถ้าอยู่ภายใต้โครงสร้างเดิม หากจะเปลี่ยนแปลงต้องทำด้วยกัน ต้องเสริมสร้างขบวนประชาชน ที่แม้ไม่ได้อยู่ในขบวนของเรา แต่ กป.อพช. ต้องทำเรื่องนี้ให้ชัด การทำงานเป็นทีมจะทำให้งานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งคณะกรรมการชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ต้องทำให้ได้

ส่วน ไผ่ จตุภัทร์ เป็นอีกคนที่ลงสมัครในครั้งนี้ เขากล่าวแนะนำตัวสั้น ๆ ว่า เป็นบุตรของ “ทนายอู๊ด” หรือ วิบูลย์ บุญภัทรรักษา ซึ่งเป็นทนายความที่ให้ความช่วยเหลือด้านคดีความกับชาวบ้าน โดยเฉพาะคดีด้านสิทธิมนุษยชนและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ภาคอีสาน เติบโตจากวงการเอ็นจีโอ เพราะลงพื้นที่ร่วมกับทนายความทองใบ ทองเปาด์ และ สุวิทย์ กุหลาบวงษ์ รวมถึง ส.ส. ในพื้นที่ตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่วัยมัธยม ก็ไปร่วมสร้างบ้านกับชุมชนบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ทำให้ผูกพันธ์กับชาวบ้านตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยมีบทบาทร่วมต่อสู้กับชาวบ้านกรณีเหมืองแร่โปแตช จนถูกจับกุม จากบทบาทของนักศึกษาที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ภายหลังกลายเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับรัฐ ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แค่การเห็นใจ แต่โกรธกับความอยุติธรรม ทำให้ตนยังอยู่ในเส้นทางนี้มาโดยตลอด เขายังกล่าวถึงกรณีที่เคยถูกจำคุกจากคดีอาญามาตรา 112 รวมแล้วเข้าออกเรือนจำหลายครั้งเป็นเวลากว่า 3 ปี

ไผ่ ยังบอกอีกว่า แม้เขาเป็นลูกหลานของคนในแวดวงเอ็นจีโอ แต่ไม่เคยเข้าร่วมประชุมสมัชชาในลักษณะนี้ นี่เป็นครั้งแรก โดยถือคติว่า จงเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่เราอยากจะเห็น เพราะเชื่อว่าอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากตัวเรา ถ้าเราเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนแปลงสังคมไม่ได้

สมบูรณ์ กล่าวเปิดใจภายหลังรับตำแหน่ง โดยระบุว่า เวลานี้มีความท้าทายที่สำคัญ เช่น กรณีกฎหมายควบคุมเอ็นจีโอและองค์กรทางสังคม ที่แม้ว่าคนในสังคมจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ และการแสดงออกบางอย่างคือการปกป้องสถานะของเอ็นจีโอด้วย แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง คือการคุกคามละเมิดสิทธิองค์กรชุมชนและประชาชน นี่คือการแสดงออกอย่างชัดเจนของรัฐบาลชุดนี้

“ผมเชื่อว่าปรากฏการณ์ของนักพัฒนาเอกชน มีพลังสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ บางประเด็น เชื่อว่าหากหลอมรวมให้เป็นพลังที่เข้มแข็งขึ้น จะเปลี่ยนแปลงได้ ภายใต้คณะกรรมการชุดนี้ มองเห็นอนาคต”

เขาย้ำอีกว่า เรื่องสำคัญที่ต้องเคลื่อนไหวผลักดันในช่วงเวลา 2 ปีหลังจากนี้ คือ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำให้ประเด็นของชาวบ้านในพื้นที่ที่สถานการณ์หนักหนาสาหัส ทั้งเหมืองทอง ป่าไม้ ที่ดิน ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน รวมถึงโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะการต่อสู้เพียงลำพังของคนในพื้นที่หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่เพียงพอ 

สมบูรณ์ คำแหง

สำหรับ สมบูรณ์ คำแหง เป็นนักเคลื่อนไหวปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ใน จ.สตูล และพื้นที่ภาคใต้ เช่น กรณีท่าเรือน้ำลึกปากบารา และการสัมปทานเหมืองหิน จ.สตูล, โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และเทพา จ.สงขลา, นิคมอุตสาหกรรมจะนะ และเคยเป็นเลขาธิการ กป.อพช. ภาคใต้ โดยหลังได้รับเลือกให้เป็นประธาน กป.อพช. คนใหม่ มี ประยงค์ ดอกลำไย ประธาน กป.อพช. คนก่อน รวมถึงกรรมการคนอื่น ๆ ร่วมกันแสดงความยินดีและส่งไม้ต่อในการทำหน้าที่ต่อไป


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active