ย้ำโอกาส ความพร้อม นำ ‘กม.ชาติพันธุ์’ สู่การปฏิบัติ

เครือข่ายชาติพันธุ์-ชนเผ่าพื้นเมือง ร่วมสะท้อนศักยภาพ บนต้นทุนวัฒนธรรม ตัวตน อัตลักษณ์ บนความหลากหลาย เตรียมขับเคลื่อนกลไกคุ้มครองวิถีชาติพันธุ์ หวังการมีส่วนร่วมจัดทำนโยบายเสนอต่อคณะกรรมการฯ ที่มี นายกฯ นั่งเป็นประธาน

วันนี้ (19 ก.ย. 68) ในกิจกรรมภูมิปัญญาชนเผ่าพื้นเมืองและชาติพันธุ์ สร้างสรรค์สังคมไทย จัดขึ้นที่ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เพื่อสะท้อนศักยภาพบนต้นทุนวิถีวัฒนธรรม และความพร้อมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะนำกฎหมายชาติพันธุ์ไปสู่การปฏิบัติ

กิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยการรวมตัวของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มาพร้อมด้วยชุดพื้นเมืองสะท้อนตัวตน อัตลักษณ์บนความหลากหลาย ร่วมเดินขบวนเฉลิมฉลองกฎหมายชาติพันธุ์ พร้อมด้วยการแปลขบวนอักษรเน้นย้ำถึงวิถีชีวิตชาติพันธุ์กับการพึ่งพาอยู่ร่วมดูแลรักษา ดิน น้ำ ป่า 

จากนั้นได้นำเสนอเครื่องมือ หรือกลไกที่เป็นหัวใจสำคัญของกฎหมายชาติพันธุ์ ทั้ง กรรมการคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน, สภาคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์, พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์, และการร่วมจัดทำข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์

คำอิ่ง ลุงแสง กรรมการบริหารกิจการสภาชนเผ่าพื้นเมืองฯ สัดส่วนเยาวชน บอกว่า การมีกฎหมายชาติพันธุ์ ทำให้มองเห็นโอกาสสำคัญหนุนเสริมศักยภาพวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาสร้างสรรค์สังคมไทย

“ในฐานะเยาวชน คิดว่าการมีกฎหมายจะทำให้เยาวชนชาติพันธุ์มีความภูมิใจในวิถีชาติพันธุ์มากขึ้น กฎหมายจะเข้ามาคุ้มครอง นอกจากนั้นกฎหมายจะช่วยรองรับสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองหลายอย่าง โดยเฉพาะประเด็นปัญหาด้านที่ดินทำกิน ที่เรากำลังเผชิญปัญหาอยู่”

คำอิ่ง ลุงแสง

ศักดิ์ดา แสนมี่ เลขาธิการสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย

ศักดิ์ดา แสนมี่ เลขาธิการสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย บอกว่า ถือเป็นความท้าทายภายใต้กฎหมายนี้ ซึ่งมีอยู่ 4 กลไกหลัก หนึ่งในนั้น คือ สภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกของภาคประชาชนที่อยู่ในกฎหมายฉบับนี้ สิ่งสำคัญสภาฯ นี้อยู่ในกฎหมาย เรามีความพร้อม เพราะมีประสบการณ์ในการขับเคลื่อน สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยมาแล้ว เมื่อมีสภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ก็จะนำสรรพกำลัง ศักยภาพทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานสภาฯ แห่งนี้ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จะเป็นสภาฯ ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มชาติพันธ์ พิทักษ์สิทธิของกลุ่มชาติพันธ์ ตามที่มีบทบาท จะเป็นหน่วยที่สำคัญในการติดตามนโยบาย หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีผลกระทบกับพี่น้องชาติพันธุ์ เพื่อสะท้อนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้สามารถแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด

“เราจะเป็นหน่วยในการทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะเสนอกับคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดนโยบาย มาตรการ หรือกฎหมายต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการมาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตของเรา เพราะฉะนั้นหน่วยงานสำคัญก็คือกลไกของสภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ก็จะเป็นกลไกที่จะนำไปสู่การปฏิบัติให้กฎหมายมีความชัดเจนในเรื่องของการคุ้มครองส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์”

ศักดิ์ดา แสนมี่

อภินันท์ ธรรมเสนา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ หรือ บอร์ดชาติ กล่าวถึงความพร้อมของทุกภาคส่วนในการนำกฎหมายสู่การปฏิบัติ ว่า มีการเตรียมความพร้อมหลายเรื่องเอาไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายลูก 11 ฉบับ ตอนนี้มีคณะทำงานจัดทำกฎหมายลูก ซึ่งศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ ตั้งขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ มีเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่อง ที่ทำให้เสร็จภายในระยะเวลาอันสั้น ตามเงื่อนไขของกฎหมายก็คือ การเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ, การเลือกกรรมการตัวแทนชาติพันธุ์ และกรรมการที่เป็นตัวแทนภาคประชาสังคม ที่จะเข้าไปนั่งในกรรมการชาติต้องทำให้เสร็จ

“กรรมการชุดนี้จะมีความสำคัญในการตัดสินใจนโยบายต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เร่งด่วนมากซึ่งตอนนี้ระเบียบ ได้ร่างเรียบร้อยแล้วเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการนัดแรก ก็จะเสนอว่าให้มีการรับรองระเบียบแล้วก็ประกาศออกมาใช้”

อภินันท์ ธรรมเสนา

อภินันท์ ยังบอกด้วยว่า อีกเรื่องที่ทำตอนนี้ คือทำระเบียบประกาศว่าด้วยการคัดเลือกสมาชิกสภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งอันนี้เป็นกลไกสำคัญ ก็จะเป็นกลไกที่ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ได้

ผศ.แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

ขณะที่ ผศ.แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ย้ำว่า วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเคารพความแตกต่างหลากหลายทุกอัตลักษณ์ ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย และเป็นการเฉลิมฉลองที่สำคัญ

“เราจะเดินก้าวไปด้วยกันกับสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย จากนี้ก็คงจะเป็นสิ่งที่ ศมส.จะทำงานกับทุกฝ่ายในสังคมไทย เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ ได้ก้าวเดินไปสมกับเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ขอให้คิดว่า ที่นี่สามารถเป็นบ้านของพี่น้องทุกกลุ่มในสังคมไทย”

ผศ.แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง

ผอ.ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ ย้ำว่า ยินดีที่จะเป็นข้อต่อสำคัญในการประสานงาน และพร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันกับกลุ่มชาติพันธ์ทุกกลุ่มในสังคมไทย

สำหรับกิจกรรมภูมิปัญญาชนเผ่าพื้นเมืองและชาติพันธุ์ สร้างสรรค์สังคมไทย จัดไปจนถึงวันที่ 21 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ ภายในงานยังมีตลาดนัดชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 50 ร้าน ที่สะท้อนศักยภาพบนวิถีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ได้ร่วมกิจกรรมกันตลอดทั้งวัน

วันนี้ไม่เพียงแค่กฎหมายชาติพันธุ์มีผลบังคับใช้ แต่ ครม.อนุทิน 1 ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้วเช่นกัน ซึ่งทำให้กลไกคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ครบองค์ประกอบ หลังจากนี้เมื่อ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณ แถลงนโยบายแล้ว ต้องติดตามว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดหนี้ หรือบอร์ดชาติ กลไกภายใต้กฎหมายชาติพันธุ์เมื่อไร

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active